การสัมมนาในหัวข้อ การเจรจาข้อตกลงการค้าเสรี หรือเอฟทีเอระหว่างเวียดนามกับสาธารณรัฐเกาหลี

( VOVworld )-บ่ายวันที่ ๑๒ ธันวาคมที่ผ่านมา ในโอกาสที่นายจอย กียองลีม รมช.ต่างประเทศและการค้าของสาธารณรัฐเกาหลีหรือเกาหลีใต้เข้าเยี่ยมคารวะ  ท่านหวูวันนิงห์ รองนายกฯได้ชื่นชมผลของการประชุมสัมมนาเกี่ยวกับการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างเวียดนามกับสาธารณรัฐเกาหลี โดยกระทรวงต่างประเทศและการค้าสาธารณรัฐเกาหลีกับกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์เวียดนามจัดขึ้น ณ กรุงฮานอยเมื่อเร็วๆนี้  โอกาสนี้ นายจอย กียองลีมเผยว่า สาธารณรัฐเกาหลีให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อการลงนามข้อตกลงการค้าเสรีหรือเอฟทีเอโดยเร็วและตั้งเป้าไว้ว่า ภายในปี ๒๐๑๕ มูลค่าการค้าทวิภาคีจะเพิ่มขึ้นเป็น ๒ หมื่น ๕ พันล้านเหรียญสหรัฐและจะเพิ่มขึ้นอีกเป็น ๓ หมื่นล้านเหรียญสหรัฐในปีต่อๆไป

ในวันเดียวกันได้มีการสัมมนาในหัวข้อ การเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีหรือเอฟทีเอระหว่างเวียดนามกับสาธารณรัฐเกาหลี  โอกาสนี้ นายเหงวียนเกิ่มตู๊ รมช.อุตสาหกรรมและการพาณิชย์เวียดนามได้ยืนยันว่า การลงนามในข้อตกลงการค้าเสรีกับสาธารณรัฐเกาหลีจะเปิดโอกาสการแข่งขันให้ผู้ประกอบการเวียดนามเป็นอย่างดี พร้อมทั้งผลักดันการส่งออกไปยังสาธารณรัฐเกาหลีและตลาดอื่นๆ  “ เวียดนามนำเข้าสินค้าจากสาธารณรัฐเกาหลีส่วนใหญ่คือวัตถุดิบและเชื้อเพลิงเพื่อการลงทุนและผลิต โดยเฉพาะเน้นสถานประกอบการผลิตสินค้าเพื่อการส่งออก  ส่วนสินค้าส่งออกจะเน้นในประเภทเสื้อผ้าสำเร็จรูปและสิ่งทอ เครื่องเฟอร์นิเจอร์และสินค้าเกษตร  โดยปี ๒๐๑๑ สินค้าเหล่านี้มีมูลค่าเป็นร้อยละ ๗๐ ของสินค้านำเข้าของสาธารณรัฐเกาหลี ”

สาธารณรัฐเกาหลีเป็นหุ้นส่วนการค้ารายใหญ่อันดับที่ ๔ ของเวียดนาม ส่วนเวียดนามอยู่อันดับ ๘ ในจำนวนประเทศที่ส่งออกสินค้าไปยังสาธารณรัฐเกาหลีมากที่สุด  สองประเทศเริ่มเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีอย่างเป็นทางการนับตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ./.