การเจรจาระหว่างนายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศ (vietnamplus) |
ในโอกาสนี้ ทั้งสองประเทศได้ออกแถลงการณ์ร่วม โดยย้ำว่า นายกรัฐมนตรีเวียดนามและนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ได้เห็นพ้องที่จะผลักดันการหารือ แลกเปลี่ยนคณะผู้แทนระดับสูงเป็นประจำ ธำรงกลไกความร่วมมือทวิภาคี รวมทั้งคณะกรรมการผสมด้านเศรษฐกิจและการค้า การสนทนากลาโหมทวิภาคีและการทาบทามความคิดเห็นทางการเมือง เพื่อหารือเกี่ยวกับปัญหาที่ต่างให้ความสนใจ เช่นการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ โครงสร้างภูมิภาค งานด้านกงสุล ความร่วมมือเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนและปัญหาอื่นๆ
นายกรัฐมนตรีทั้งสองท่านได้เห็นพ้องที่จะผลักดันความสัมพันธ์หุ้นส่วนในทุกด้าน และมอบหมายให้กระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทั้งสองฝ่ายปฏิบัติโครงการปฏิบัติงานในช่วงปี 2017-2020 อย่างเข้มแข็งและมีประสิทธิภาพ เสร็จสิ้นการหารือและทาบทามความคิดเห็นภายในปี 2019เกี่ยวกับการยกระดับความสัมพันธ์ขึ้นเป็นความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในอนาคตอันใกล้นี้ อีกทั้งชื่นชมการขยายความร่วมมือด้านกลาโหมและความมั่นคง
ในด้านการค้าและการลงทุน ทั้งสองฝ่ายแสดงความเชื่อมั่นว่า จะบรรลุมูลค่าการค้าต่างตอบแทน 1.7-2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2020 เห็นพ้องดึงดูดการลงทุนในด้านการเกษตรที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง พลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและพลังงานหมุนเวียน ตลอดจนโครงสร้างพื้นฐาน
ผู้นำทั้งสองประเทศได้ชื่นชมการลงนามแผนความร่วมมือยุทธศาสตร์ด้านการศึกษาในช่วงปี 2018-2020 ตั้งเป้าไว้ว่า จำนวนนักศึกษาเวียดนามในนิวซีแลนด์จะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 30 ภายในปี 2020 ผ่านการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนนักศึกษาและโครงการร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยและความร่วมมือในด้านอื่นๆของทั้งสองประเทศ
ทั้งสองฝ่ายจะประสานงานอย่างใกล้ชิดในฟอรั่มพหุภาคีและภูมิภาคต่อไป เช่นองค์การการค้าโลกหรือ WTO ฟอรั่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิกหรือเอเปก การประชุมสุดยอดเอเชีย-ยุโรปหรือเอเซม เป็นต้น เพื่อผลักดันความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาค แก้ไขความท้าทายด้านความมั่นคงในภูมิภาคและผลักดันความร่วมมือในปัญหาอื่นๆที่ต่างให้ความสนใจ
นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ จาซินดา อาร์เดิร์น ได้ยืนยันสนับสนุนเวียดนามในการสมัครเข้าเป็นสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติวาระปี 2020-2021
ผู้นำทั้งสองประเทศได้ชื่นชมการลงนามข้อตกลงหุ้นส่วนในทุกด้านและก้าวหน้าข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกหรือซีพีทีพีพีเมื่อวันที่ 8 มีนาคมปี 2018 ณ ประเทศชิลี ยืนยันอีกครั้งถึงคำมั่นที่จะให้สัตยาบันและปฏิบัติข้อตกลงโดยเร็ว ยืนยันอีกครั้งถึงความสนใจในการบรรลุผลงานที่ก้าวหน้า รอบด้าน มีคุณภาพสูงและได้รับผลประโยชน์จากกระบวนการเจรจาข้อตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจในทุกด้านภูมิภาคหรือ RCEP
ทั้งสองฝ่ายได้ย้ำถึงความสำคัญของการธำรงสันติภาพ ความมั่นคงและเสถียรภาพในทะเลตะวันออกผ่านการปฏิบัติคำมั่นระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด ให้ความเคารพกระบวนการทางนิตินัยและการทูต แก้ไขการพิพาทอย่างสันติและธำรงเสรีภาพในการเดินเรือและการบิน บนพื้นฐานกฎหมายสากล รวมทั้งอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982 ส่งเสริมการปฏิบัติดีโอซีอย่างสมบูรณ์และมีประสิทธิภาพ ตลอดจนบรรลุซีโอซีอย่างมีประสิทธิภาพและจริงจังโดยเร็ว.