รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ามบิ่งมิงห์ กล่าวปราศรัยในการหารือของสมัชชาใหญ่สหประชาชาติสมัยที่ 74 ณ นครนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐ (vietnamplus) |
ภายใต้หัวข้อ “ผลักดันพลังที่เข้มแข็งของลัทธิพหุภาคีเพื่อสันติภาพและการพัฒนาอย่างยั่งยืน” รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ามบิ่งมิงห์ ได้ย้ำว่า เวียดนามเห็นว่า การให้ความเคารพกฎหมายสากลคือวิธีการที่มีประสิทธิภาพเพื่อป้องกันการปะทะ ตลอดจนแสวงหามาตรการที่ยาวนานให้แก่การพิพาทและการปะทะ เวียดนามสนับสนุนทุกความพยายามปฏิบัติมาตรการที่สันติ แก้ไขการพิพาทตามกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายสากล จากการเจรจาและการไกล่เกลี่ยไปจนถึงการบังคับใช้กฎหมายสากล สำหรับปัญหาทะเลตะวันออก รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ามบิ่งมิงห์ แสดงความเห็นว่า
“พวกเราเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในทะเลตะวันออกปฏิบัติตามกฎหมสากล โดยเฉพาะอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลหรือ UNCLOS ปี1982- “กฎบัตรเกี่ยวกับทะเลและมหาสมุทร” การเชื่อมโยงมหาสมุทรอินเดียและแปซิฟิก ทะเลตะวันออกมีความหมายเชิงยุทธศาสตร์ต่อสันติภาพ ความมั่นคงและการพัฒนาในเอเชียแปซิฟิกและโลก จากการตระหนักได้ดีเกี่ยวกับเรื่องนี้ ประเทศต่างๆที่เกี่ยวข้องได้พยายาม บรรลุผลงานที่น่ายินดีเกี่ยวกับการแก้ไขความขัดแย้งและการพิพาท แต่อย่างไรก็ตาม เวียดนามได้แสดงความวิตกกังวลหลายครั้งเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวที่ซับซ้อนในทะเลตะวันออก รวมทั้งการละเมิดสิทธิอธิปไตย สิทธิอัตวินิจฉัยในเขตทะเลของเวียดนามที่ถูกระบุตาม UNCLOS 1982 ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องใช้ความอดกลั้นและหลีกเลี่ยงการมีปฏิบัติการแต่เพียงฝ่ายเดียวที่ทำให้สถานการณ์มีความซับซ้อนและทวีความตึงเครียด แก้ไขการพิพาทผ่านมาตรการที่สันติให้สอดคล้องกับกฎหมายสากล รวมทั้ง UNCLOS”
รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ามบิ่งมิงห์ แสดงความเห็นว่า ต้องยืนยันอีกครั้งถึงบทบาทและความสำคคัญของกฎหมายสากลและกฎบัตรสหประชาชาติในการสร้างความเป็นระเบียบของโลกบยพื้นฐานกฎหมาย ผลักดันความสัมพันธ์ระหว่างประเทศต่างๆและผลักดันความร่วมมือพหุภาคี.
ฝ่ามฮวน-ผู้สื่อข่าวของวีโอวีประจำสหรัฐ