ประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลี มุนแจอินกับประธานประเทศ เจิ่นด่ายกวาง |
ในการเจรจา ผู้นำทั้งสองประเทศได้เห็นพ้องกับมาตรการที่เป็นรูปธรรมเพื่อผลักดันความร่วมมือทวิภาคีในหลายด้านในเวลาที่จะถึง
สำหรับด้านกลาโหม ความมั่นคง ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องที่จะอนุมัติแถลงการณ์วิสัยทัศน์ร่วมเกี่ยวกับความร่วมมือด้านกลาโหมระหว่างกระทรวงกลาโหมของทั้งสองประเทศ แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ประสานงานในการป้องกันและต่อต้านอาชญากรรม รักษาความมั่นคง ความเป็นระเบียบเรียบร้อยในแต่ละประเทศ ขยายและพัฒนาให้เนื้อหาความร่วมมือด้านการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายมีความหลากหลายมากขึ้น
ในด้านเศรษฐกิจการค้าและการลงทุน ผู้นำทั้งสองประเทศได้ย้ำถึงความมุ่งมั่นยกระดับมูลค่าการค้าต่างตอบแทนขึ้นเป็น 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2020 ควบคู่กับมาตรการสร้างความสมดุลด้านการค้า ส่งเสริมความร่วมมือในการลงทุน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมประกอบ อิเล็กทรอนิกส์ พลังงาน เทคโนโลยีขั้นสูงและโครงสร้างพื้นฐาน เวียดนามชื่นชมสถานประกอบการสาธารณรัฐเกาหลีที่เข้าร่วมการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและด้านพลังงานในขอบเขตขนาดใหญ่ การแปรสถานประกอบการภาครัฐให้เป็นบริษัทหุ้นส่วนและปรับปรุงโครงสร้างธนาคารพาณิชย์
สำหรับความร่วมมือพัฒนาการฝึกอบรม สาธารณรัฐเกาหลีกำหนดเวียดนามคือหุ้นส่วนที่จะได้รับเงินช่วยเหลืออุปถัมภ์เพื่อการพัฒนารายใหญ่ที่สุด สงวนเงินช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาและสินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษให้สอดคล้องกับเงื่อนไขและความต้องการของเวียดนามต่อไป
สำหรับความร่วมมือด้านอุตสาหกรรม พลังงานและสิ่งแวดล้อม ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะยกระดับคุณภาพความร่วมมือ ผลักดันการถ่ายทอดวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีเกี่ยวกับอุตสาหกรรมประกอบรถยนต์ เครื่องจักรกลและสิ่งทอเสื้อผ้าสำเร็จรูป เป็นต้น ผลักดันความร่วมมือความปลอดภัยด้านพลังงาน พลังงานหมุนเวียน มาตรการประหยัดพลังงาน ร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างสมบูรณ์
สำหรับด้านวัฒนธรรม การท่องเที่ยว การแลกเปลี่ยนระดับประชานชน ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะขยายการพบปะสังสรรค์ด้านวัฒนธรรม การศึกษา การท่องเที่ยว ความเข้าใจและความไว้วางใจระหว่างกัน อำนวยความสะดวกให้แก่พลเมืองของแต่ละฝ่าย เสริมสร้างพื้นฐานสังคมที่มั่นคงให้แก่ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ เวียดนามให้ความสำคัญต่อความพยายามของสาธารณรัฐเกาหลีในการอนุรักษ์และส่งเสริมเขตโบราณสถานทางประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องถึงราชวงศ์ลี้ของเวียดนาม ตลอดจนสนับสนุนการปฏิบัติโครงการประชาสัมพันธ์วัฒนธรรมและเขตโบราณสถานทางประวัติศาสตร์ของเวียดนามในสาธารณรัฐเกาหลี
ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะร่วมือในฟอรั่มพหุภาคี ยืนยันถึงความสำคัญของการรักษาสันติภาพ ความมั่นคง ความปลอดภัย เสรีภาพในการเดินเรือ การบิน ผลักดันการแก้ไขความขัดแย้งและการพิพาทด้วยสันติวิธีสอดคล้องกับกฎหมายสากล เวียดนามชื่นชมความพยายามของสาธารณรัฐเกาหลีในการผลักดันการสนทนาระหว่างสองภาคเกาหลีและแก้ไขปัญหานิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลี
หลังการเจรจา ประธานประเทศ เจิ่นด่ายกวางและประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลี มุนแจอิน ได้เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกช่วยจำเพื่อความร่วมมือในด้านการค้าในช่วงปี 2018-2020
ในการกล่าวปราศรัยในการพบปะกับสื่อมวลชน ประธานประเทศ เจิ่นด่ายกวาง ได้ย้ำว่า “ผมเชื่อมั่นว่า ด้วยความมุ่งมั่นของผู้นำและประชาชนทั้งสองประเทศ ตลอดจนหน่วยงานและท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องของทั้งสองฝ่าย ความสัมพันธ์หุ้นส่วนร่วมมือยุทธศาสตร์เวียดนาม สาธารณรัฐเกาหลีจะพัฒนาเข้าสู่ส่วนลึก เพื่อผลประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศ มีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็งต่อสันติภาพ เสถียรภาพและการพัฒนาของภูมิภาคและโลก”
ส่วนประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลี มุนแจอินได้แสดงความเห็นว่า ความคล้ายคลึงกันในด้านประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม สังคมและการแลกเปลี่ยนการค้าที่มีมาช้านาน ความผูกพันที่ใกล้ชิดระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศได้ทำให้ทั้งสองประเทศมีความกระเถิบเข้าใกล้กันมากขึ้น และความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งนั้นคือพื้นฐานให้แก่การพัฒนาความสัมพันธ์ร่วมมือเวียดนาม-สาธารณรัฐเกาหลี “เวียดนามคือหุ้นส่วนสำคัญของสาธารณรัฐเกาหลี และสาธารณรัฐเกาหลีก็คือหุ้นส่วนสำคัญของเวีดนามเช่นกัน ในนโยบายมุ่งสู่ภาคใต้ใหม่ที่สาธารณรัฐเกาหลีกำลังปฏิบัตินั้น เวียดนามมีบทบาทสำคัญ ผ่านการพบปะระดับสูงวันนี้ ทั้งสองประเทศได้แสดงให้เห็นถึงสัมพันธไมตรีที่ลึกซึ้งและเห็นพ้องที่จะพยายามผลักดันความร่วมมือเพื่อความเจริญรุ่งเรืองของทั้งสองประชาชาติ”
ส่วนในช่วงบ่าย ประธานาธิบดี มุนแจอิน ได้เข้าร่วมฟอรั่มสถานประกอบการเวียดนาม-สาธารณรัฐเกาหลี เข้าเยี่ยมคาราวะประธานสภาแห่งชาติ เหงียนถิกิมเงิน และนายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุก.