 การเจรจาระหว่างสองฝ่าย (vietnamplus) |
เมื่อเช้าวันที่ 5 มิถุนายน ณ ทำเนียบประธานประเทศ นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุก ได้เป็นประธานในพิธีต้อนรับนายกรัฐมนตรีอิตาลี หลังพิธีต้อนรับ นายกรัฐมนตรีทั้งสองท่านได้เจรจากัน
ในการหารือเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทวิภาคี นายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศได้ประเมินว่า ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศยังมีศักยภาพอีกมากเพื่อการพัฒนาที่กว้างลึกมากขึ้น เห็นพ้องผลักดันความร่วมมือในด้านการทูต การเมือง เศรษฐกิจ วัฒนธรรม การศึกษาและฝึกอบรม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ความมั่นคง กลาโหม ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน การต่อต้านการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและความร่วมมือระหว่างท้องถิ่น
สำหรับด้านเศรษฐกิจ นายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศเห็นพ้องอำนวยความสะดวกให้สถานประกอบการของทั้งสองประเทศผลักดันความร่วมมือในด้านต่างๆ เช่นเครื่องจักรกล โครงสร้างพื้นฐาน สิ่งทอเสื้อผ้าสำเร็จรูป รองเท้า การแปรรูปไม้ อุตสาหกรรมประกอบ วัสดุก่อสร้าง ปิโตรเลียม พลังงานหมุนเวียนและการแปรรูอาหาร เป็นต้น พยายามเพิ่มมูลค่าการค้าต่างตอบแทนจาก 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐขึ้นเป็น 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2020 และ 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปีต่อๆไป
นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุก ยืนยันว่า เวียดนามให้ความสำคัญต่อสัมพันธไมตรีและความร่วมมือในหลายด้านกับอิตาลี ชื่นชมข้อคิดริเริ่มจัดการสนทนาระดับสูงเกี่ยวกับความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจอิตาลี-อาเซียนครั้งที่ 3 ณ กรุงฮานอย เวียดนามสนับสนุนอิตาลีผลักดันความสัมพันธ์กับอาเซียน อีกทั้งยืนยันว่า ในฐานะมีบทบาทเป็นศูนย์กลางในเครือข่ายเอฟทีเออันกว้างใหญ่ของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เวียดนามจะเป็นประตูให้สถานประกอบการอิตาลีเจาะตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียแปซิฟิก นายกรัฐมนตรีทั้งสองท่านยังเห็นพ้องถึงความสำคัญของข้อตกลงการค้าเสรีเวียดนาม-อียูหรืออีวีเอฟทีเอและข้อตกลงการลงทุนเวียดนาม-อียูหรืออีวีไอพีเอ ซึ่งนายกรัฐมนตรีอิตาลีได้ยืนยันสนับสนุนการลงนามและให้สัตยาบันข้อตกลงฉบับนี้
นายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศยังหารือเกี่ยวกับปัญหาทั้งในระดับภูมิภาคและโลกที่ต่างให้ความสนใจ ยืนยันที่จะร่วมมืออย่างใกล้ชิดและสนับสนุนกันในฟอรั่มพหุภาคี เช่น สหประชาชาติ อาเซม อาเซียน-อียู ให้ความสำคัญต่อการธำรงสันติภาพ เสถียรภาพ ความมั่นคง ความปลอดภัยและความเป็นระเบียบเรียบร้อยในการเดินเรือและการบินในทะเลตะวันออก การแก้ไขการพิพาทผ่านมาตรการที่สันติบนพื้นฐานของการให้ความเคารพกฎหมายสากล รวมทั้งอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982
 นายกรัฐมนตรีอิตาลี จูเซปเป คอนเต เข้าร่วมการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน (chinhphu.vn) |
หลังการเจรจา นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุกและนายกรัฐมนตรีอิตาลี จูเซปเป คอนเต ได้เข้าร่วมการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดยแสดงความเห็นว่า เวียดนามและอิตาลีกำลังอยู่ในช่วงที่เหมาะสมเพื่อยกระดับความสัมพันธ์ร่วมมือในหลายด้านบนพื้นฐานข้อตกลงความร่วมมือยุทธศาสตร์เวียดนาม-อิตาลีที่สถาปนาเมื่อปี 2013 นาย จูเซปเป คอนเต ได้ยืนยันว่า เวียดนามเป็นหุ้นส่วนที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆ ของอิตาลีในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยสถานประกอบการอิตาลีหลายแห่งได้ลงทุน และขยายขอบเขตการประกอบธุรกิจในเวียดนาม ปัจจุบัน สถานประกอบการสำคัญๆของอิตาลีหลายแห่งยังให้ความสนใจลงทุนและแลกเปลี่ยนการค้ากับเวียดนาม
ส่วนนายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุก ได้เผยว่า นายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศได้เห็นพ้องผลักดันความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศเข้าสู่ส่วนลึกด้วยกลไกการสนทนายุทธศาสตร์ระดับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม โดยเฉพาะคณะกรรมการผสมเกี่ยวกับเศรษฐกิจ อีกทั้งปฏิบัติแผนการร่วมมือด้านวัฒนธรรม การท่องเที่ยวและตุลาการ.