เนื้อหาดังกล่าวถูกระบุในมติของการประชุมรัฐบาลประจำเดือนพฤษภาคมปี 2019 โดยรัฐบาลได้กำชับให้กระทรวง หน่วยงานและท้องถิ่นต่างๆต้องเป็นฝ่ายรุกและมีความคล่องตัวในการรับมือกับความผันผวนของสถานการณ์ทั้งภายในและต่างประเทศ ผลักดันการปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจและหน่วยงานต่างๆ ปฏิบัติหน้าที่และมาตรการของรัฐบาลอย่างมีประสิทธิภาพ ลดขั้นตอนระเบียบการต่างๆ ปรับปรุงบรรยากาศการลงทุนและการประกอบธุรกิจเพื่อผลักดันการผลิตและการประกอบธุรกิจ
มติดังกล่าวยังชี้ชัดว่า กระทรวงวางแผนและการลงทุนต้องเร่งจัดทำยุทธศาสตร์การดึงดูดเงินทุนโดยตรงจากต่างประเทศหรือเอฟดีไอรูปแบบใหม่และโครงการเอฟดีไอที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เสนอแผนการแปรสถานประกอบการภาครัฐให้เป็นบริษัทหุ้นส่วนในช่วงปี 2019 – 2020 ให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติ ส่วนกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์ต้องมีมาตรการเพิ่มความหลากหลายของตลาด พัฒนาตลาดภายในประเทศ ใช้โอกาสจากข้อตกลงการค้าต่างๆที่ได้ลงนามและผลักดันการให้สัตยาบันข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างเวียดนามกับสหภาพยุโรปหรือ EVFTA.