นายกรัฐมนตรี ฝามมิงชิ้งและส.ส.สหรัฐนำโดยส.ว. Jeff Merkley (Photo: VGP) |
นายกรัฐมนตรี ฝามมิงชิ้งได้ยืนยันว่า เวียดนามถือสหรัฐเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนสำคัญชั้นนำในนโยบายการต่างประเทศ พร้อมทั้งย้ำว่า เวียดนามพร้อมร่วมกับสหรัฐผลักดันความสัมพันธ์ให้เข้าสู่ส่วนลึก มีประสิทธิภาพและจริงจังบนพื้นฐานของการเคาพเอกราช อธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดนและระบอบการเมืองระหว่างกัน สอดคล้องกับผลประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศ มีส่วนร่วมต่อสันติภาพ เสถียรภาพ ความร่วมมือและการพัฒนาในภูมิภาคและโลก พร้อมทั้งมีความประสงค์ที่จะผลักดันความสัมพันธ์หุ้นส่วนในทุกด้านกับสหรัฐเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน นายกรัฐมนตรี ฝามมิงชิ้ง ยังเสนอให้รัฐสภาสหรัฐให้ความสนใจและสงวนงบประมาณเพื่อช่วยเหลือเวียดนามในการแก้ไขผลเสียหายจากสงคราม เช่น การเก็บกู้กับระเบิด การแก้ไขผลเสียหายจากสารพิษสีส้มไดอ๊อกซิน สนับสนุนรัฐบาลทั้งสองประเทศในการปฏิบัติความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน กลาโหม ความมั่นคง การศึกษาและฝึกอบรม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นวัตกรรม การปรับเปลี่ยนด้านพลังงาน การรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ เป็นต้น
ส่วน ส.ว. Jeff Merkley และบรรดา ส.ส.สหรัฐได้แสดงความประสงค์ว่า ทั้งสองประเทศจะยกระดับความสัมพันธ์ขึ้นเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ พร้อมทั้งเผยว่า จะเน้นการแก้ไขผลเสียหายจากสงคราม เช่น ผู้เคราะห์ร้ายจากสงคราม การเก็บกู้กับระเบิด การค้นหาอัฐิทหารที่สูญหาย การชะล้างสารพิษสีส้มไดอ๊อกซิน สหรัฐจะช่วยเหลือเวียดนามในการรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ การส่งเสริมการลงทุนและการค้า การปรับเปลี่ยนด้านพลังงาน ให้ความสนใจต่อชมรมชาวเวียดนามที่อาศัย ศึกษาและทำงานในสหรัฐ
สำหรับปัญหาทะเลตะวันออก ทั้งสองฝ่ายได้ยืนยันจุดยืนเกี่ยวกับการธำรงเสรีภาพ ความปลอดภัยในการเดินเรือและการบิน การแก้ไขปัญหาการพิพาทอย่างสันติบนพื้นฐานของกฎหมายสากล
สำหรับปัญหาในภูมิภาคและโลก ทั้งสองฝ่ายได้ประสานงานอย่างมีประสิทธิภาพในกรอบกลไกพหุภาคี โดยเฉพาะอาเซียนและกลไกในภูมิภาค ทั้งสองประเทศสนับสนุนบทบาทการเป็นศูนย์กลางของอาเซียน ความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้านระหว่างอาเซียนกับสหรัฐ ความสัมพันธ์หุ้นส่วนแม่โขง-สหรัฐ สหรัฐเสนอให้เวียดนามผลักดันความร่วมมือที่มีความรับผิดชอบกับภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก มีส่วนร่วมต่อการรักษาสันติภาพ เสถียรภาพ ความร่วมมือและการพัฒนาในภูมิภาคและโลก
ในเช้าวันเดียวกัน ประธานสภาแห่งชาติ เวืองดิ่งเหวะได้ให้การต้อนรับคณะ.