ในการหารือเกี่ยวกับแนวทางยกระดับความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่เข้มแข็ง ผู้นำทั้งสองท่านได้เห็นพ้องผลักดันการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนทุกระดับ ให้คำมั่นพยายามเพิ่มมูลค่าการค้าต่างตอบแทนให้บรรลุ 2 หมื่น 5 พันล้าน – 3 หมื่นล้านดอลาร์สหรัฐโดยเร็วตามแนวทางที่เท่าเทียมกัน ผลักดันการเชื่อมโยงในด้านต่าง ๆ  ชื่นชมธนาคารกลางของทั้งสองประเทศที่ปฏิบัติโครงการชำระการขายปลีกระหว่างกันด้วยการใช้ระบบ QR Code เวียดนามส่งเสริมให้สถานประกอบการไทยเข้ามาลงทุนในด้านต่างๆ  เช่น พลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รถยนต์ อาหารแปรรูป สิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูป อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เคมีและโครงสร้างพื้นฐานในเขตนิคมอุตสาหกรรม ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องขยายความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่เข้มแข็งเวียดนาม – ไทยผ่านยุทธศาสตร์ “ 3 เชื่อมโยง” คือ เชื่อมโยงในห่วงโซ่อุปทาน เชื่อมโยงในหน่วยงานด้านเศรษฐกิจขั้นพื้นฐานและเชื่อมโยงยุทธศาสตร์การขยายตัวอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งเห็นพ้องขยายความร่วมมือระหว่างท้องถิ่นต่างๆ การพบปะในระดับประชาชน การสอนภาษาไทยในเวียดนามและการสอนภาษาเวียดนามในประเทศไทย

สำหรับปัญหาระดับภูมิภาคและโลกที่ต่างให้ความสนใจ ผู้นำทั้งสองท่านได้ยืนยันว่า จะประสานงานผลักดันประชาคมอาเซียนที่สามัคคี พึ่งตนเองและส่งเสริมบทบาทการเป็นศูนย์กลางของอาเซียน สร้างสรรค์อนุภูมิภาคแม่น้ำโขงที่เชื่อมโยง สันติภาพและเจริญรุ่งเรือง ธำรงจุดยืนร่วมของอาเซียนเกี่ยวกับทะเลตะวันออก ย้ำถึงบทบาทสำคัญของการธำรงสันติภาพ เสถียรภาพ การเดินเรือและการบินอย่างเสรีและปลอดภัยในทะเลตะวันออกบนพื้นฐานของการให้ความเคารพกฎหมายสากล

ก่อนที่จะเสร็จสิ้นการเจรจา ประธานประเทศ เหงียนซวนฟุ๊ก และนายกรัฐมนตรี ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามเอกสารร่วมมือ 5 ฉบับ

ต่อจากนั้น ผู้นำทั้งสองท่านได้เข้าร่วมการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับผลการเยือนประเทศไทยและออกแถลงการณ์ร่วมที่ส่งสาร “ รำลึกครอบรอบ 10 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เวียดนาม – ไทย: เปิดศักราชใหม่แห่งความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่เข้มแข็งมากขึ้นเพื่อสันติภาพ เสถียรภาพและความเจริญรุ่งเรืองร่วม”

หลังการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ประธานประเทศ เหงียนซวนฟุ๊ก และนายกรัฐมนตรีไทย ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ไปชมบูธแสดงสินค้าหัตถกรรมของสองประเทศ ต่อจากนั้นนายกรัฐมนตรีไทยและภริยาได้จัดงานเลี้ยงแด่ประธานประเทศเวียดนามและภริยา.