 เลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศ โตเลิม เป็นประธานในพิธีต้อนรับประธานาธิบดีสาธารณรัฐกินี-บิสเซา อูมาโร ซิสโซโก เอ็มบาโล |
นี่เป็นการเยือนเวียดนามครั้งแรกของประธานาธิบดีกินี-บิสเซา นับตั้งแต่ทั้งสองประเทศสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อปี 1973 หลังพิธีต้อนรับ ผู้นำทั้งสองท่านได้นำคณะผู้แทนระดับสูงของทั้งสองประเทศเข้าร่วมการเจรจา ประเมินผลความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศในเวลาที่ผ่านมา และเสนอแนวทางความร่วมมือในเวลาที่จะถึง ผู้นำทั้งสองประเทศได้เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามเอกสารความร่วมมือระหว่างทั้งสองฝ่าย.
ในการเจรจา เลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศ โตเลิม และประธานาธิบดีกินี-บิสเซา อูมาโร ซิสโซโก เอ็มบาโล ได้แจ้งให้ทราบเกี่ยวกับสถานการณ์ในแต่ละประเทศและเสนอแนวทางเพื่อยกระดับความมีประสิทธิภาพของความร่วมมือทวิภาคีในเวลาที่จะถึง
 การเจรจาระหว่างสองฝ่าย |
ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องที่จะเพิ่มการหารือและพบปะในระดับสูงและทุกระดับเพื่อเสริมสร้างความไว้วางใจทางการเมืองและประสานงานอย่างใกล้ชิดเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุน ขยายความร่วมมือในด้านที่ยังมีศักยภาพที่เวียดนามมีจุดแข็งและกินี-บิสเซามีความต้องการ เช่น การเกษตร การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการจัดทำนโยบาย รูปแบบการพัฒนา และการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร เพื่ออำนวยความสะดวกในการส่งเสริมกิจกรรมการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนของทั้งสองประเทศ ประธานาธิบดีกินี-บิสเซาเผยว่า จะยกเว้นวีซาสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางการทูตและผู้ถือหนังสือเดินทางราชการของเวียดนาม
ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะส่งเสริมการประสานงานอย่างใกล้ชิดและสนับสนุนกันในฟอรั่มพหุภาคี แลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ร่วมเกี่ยวกับความสำคัญของการค้ำประกันความมั่นคง ความปลอดภัยและเสรีภาพในการเดินเรือและการบินในทะเลตะวันออก ย้ำถึงการสนับสนุนการแก้ไขการพิพาทด้วยสันติวิธีตามกฎหมายระหว่างประเทศ รวมถึงอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982
 ผู้นำทั้งสองประเทศเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกช่วยจำฉบับต่างๆ |
หลังการเจรจา ผู้นำทั้งสองประเทศได้เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกช่วยจำเพื่อความร่วมมือเกี่ยวกับการจัดตั้งกลไกการปรึกษาหารือทางการเมืองและการทูตระหว่างกระทรวงการต่างประเทศของทั้งสองประเทศ และบันทึกช่วยจำเพื่อความร่วมมือด้านการเกษตรระหว่างกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทของทั้งสองฝ่าย.