ภาพของการเจรจา (Photo: TTXVN)

ในการนี้ เลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศ โตเลิม ได้ยืนยันว่า เวียดนามให้ความสำคัญต่อการพัฒนาความสัมพันธ์มิตรภาพและความร่วมมือในหลายด้านกับไอร์แลนด์ มีความประสงค์ว่า ไอร์แลนด์จะให้ความช่วยเหลือเวียดนามในด้านการขยายตัวแห่งสีเขียว การรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เทคโนโลยีสารสนเทศ การปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลและการพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป พร้อมทั้งประกาศว่า รัฐบาลเวียดนามได้ตัดสินใจและกำลังปฏิบัติระเบียบการต่างๆเพื่อเปิดสถานทูตเวียดนามประจำไอร์แลนด์ ทั้งสองฝ่ายแสดงความเชื่อมั่นว่า การตัดสินใจนี้จะเปิดระยะการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีใหม่ พร้อมทั้งเห็นพ้องที่จะผลักดันการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนทุกระดับและปฏิบัติกลไกความร่วมมือที่มีอยู่ 

สำหรับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน ผู้นำทั้งสองท่านได้ย้ำว่า ทั้งสองประเทศควรใช้ประโยชน์จากข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างเวียดนามกับอียูหรือ EVFTA  ส่งเสริมการเชื่อมโยงทางการค้า การลงทุน ให้ความช่วยเหลือชมรมสถานประกอบการทั้งสองประเทศ พยายามเพิ่มมูลค่าการค้าต่างตอบแทนระหว่างสองประเทศขึ้นเป็น 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2026 ส่วนประธานาธิบดีไอร์แลนด์ได้รับรองข้อเสนอของเวียดนามเกี่ยวกับการผลักดันการให้สัตยาบันข้อตกลงคุ้มครองการลงทุนเวียดนาม-อียูหรือ EVIPA เพื่อขยายโอกาสความร่วมมือและการลงทุนระหว่างชมรมสถานประกอบการทั้งสองประเทศและหวังว่า เวียดนามจะอำนวยความสะดวกให้แก่การส่งออกสินค้าการเกษตรและอาหารที่มีคุณภาพสูงของไอร์แลนด์

ทั้งสองฝ่ายยังเห็นพ้องที่จะส่งเสริมความร่วมมือด้านการศึกษา มีส่วนร่วมยกระดับคุณภาพการศึกษาและฝึกอบรม การพัฒนาแหล่งบุคลากรที่มีคุณภาพสูง ผลักดันการวิจัยวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมในเวียดนาม ผลักดันการพบปะสังสรรค์ระดับประชาชน ความร่วมมือด้านวัฒนธรรม ศิลปะ การท่องเที่ยว ความร่วมมือระหว่างท้องถิ่นต่างๆ อำนวยความสะดวกให้แก่พลเมืองของทั้งสองประเทศอาศัยและทำงาน มีส่วนร่วมต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของกัน ส่งเสริมบทบาทการเป็นสะพานเชื่อมให้แก่ความสัมพันธ์มิตรภาพระหว่างสองประเทศ

ทั้งสองฝ่ายได้หารือในเชิงลึกเกี่ยวกับปัญหาด้านความมั่นคงในภูมิภาคที่ให้ความสนใจร่วมกัน เช่น สถานการณ์ยูเครนและภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยเรียกร้องให้ปกป้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ ทำการสนทนา แก้ไขปัญหาการพิพาทด้วยสันติวิธีบนพื้นฐานของกฎหมายสากลและกฎบัตรสหประชาชาติ เห็นพ้องส่งเสริมความร่วมือในฟอรั่มพหุภาคีในด้านการรับมือความท้าทายของโลก การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ความมั่นคงด้านอาหาร เป็นต้น สนับสนุนจุดยืนของอาเซียนในปัญหาทะเลตะวันออกเกี่ยวกับการค้ำประกันสันติภาพ เสถียรภาพ ความมั่นคง  ความร่วมมือและการพัฒนาในภูมิภาค การแก้ไขปัญหาการพิพาทด้วยสันติวิธีบนพื้นฐานของกฎหมายสากล โดยเฉพาะอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982.