ภาพการเจรจา (VNA) |
ผู้นำทั้งสองท่านได้เห็นพ้องยกระดับความสัมพันธ์ทวิภาคีให้เป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้านและเห็นพ้องแนวทาง มาตรการที่สำคัญเพื่อนำกรอบความสัมพันธ์ใหม่ให้นับวันเข้าสู่ส่วนลึก จริงจัง สอดคล้องกับกรอบความร่วมมือระหว่างสองประเทศ ซึ่งฝรั่งเศสเป็นประเทศแรกในสหภาพยุโรปที่ยกระดับความสัมพันธ์เป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้านกับเวียดนาม
ทั้งสองฝ่ายได้ประเมินว่า ความร่วมมือด้านความมั่นคงและกลาโหมเป็น 1 ในเสาหลักที่สำคัญ เห็นพ้องจัดการสนทนาเชิงยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคงและกลาโหมโดยเร็ว ประสานงานและช่วยเหลือในการอบรมทหาร แลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการป้องกันและต่อต้านอาชญากรรม สนับสนุนกันในฟอรั่มความมั่นคงระดับภูมิภาคและโลก
ในด้านเศรษฐกิจและการค้า ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องส่งเสริมการปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษ รวมถึงเงิน ODA ให้แก่เวียดนาม ส่งเสริมให้หน่วยงานและสถานประกอบการทั้งสองประเทศปฏิบัติข้อตกลงการค้าเสรีเวียดนาม-อียู หรือ EVFTA อย่างสมบูรณ์และมีประสิทธภาพ ขยายความร่วมมือด้านโครงสร้างพื้นฐาน การบิน อวกาศ วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี พลังงานหมุนเวียนและพลังงานไฮโดรเจน
เลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศ โตเลิม ได้เสนอให้ฝรั่งเศสผลักดันการให้สัตยาบันข้อตกลงการคุ้มครองการลงทุนอียู-เวียดนาม หรือ EVIPA รับรองการปรับเปลี่ยนการประกอบอาชีพประมงที่ยั่งยืนของเวียดนามและสนับสนุนให้คณะกรรมาธิการยุโรป หรือ อีซี ยกเลิกใบเหลืองต่อสัตว์น้ำเวียดนามโดยเร็ว อีกทั้งชื่นชมบทบาทการเป็นผู้นำของฝรั่งเศสในการรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและมีความประสงค์ว่า ทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือในการพัฒนาระบบนิเวศ เพิ่มศักยภาพของเมืองและเขตริมฝั่งทะเล โดยเฉพาะเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงในการรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
ส่วนนาย เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ยืนยันที่จะเสนอให้รัฐสภาฝรั่งเศสให้สัตยาบัน EVIPA โดยเร็ว ชื่นชมคำมั่นของเวียดนามในการปฏิบัติกรอบข้อตกลงการเป็นพันธมิตรด้านการเปลี่ยนผ่านพลังงานที่เป็นธรรม หรือ JETP และการปรับเปลี่ยนสีเขียว การรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ อีกทั้งชื่นชมบทบาทของชมรมชาวเวียดนามในฝรั่งเศสและยืนยันอำนวยความสะดวกให้แก่ชมรมชาวเวียดนามในการอาศัยและทำงานในฝรั่งเศส
สำหรับปัญหาในภูมิภาคและโลกที่ให้ความสนใจร่วมกัน ทั้งสองฝ่ายได้ยืนยันความสำคัญของการค้ำประกันสันติภาพ เสถียรภาพ ความมั่นคง ความปลอดภัย เสรีภาพในการเดินเรือและการบิน การแก้ไขปัญหาการพิพาทด้วยสันติวิธี สอดคล้องกับกฎหมายสากล โดยเฉพาะอนุสัญญาสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982
โอกาสนี้ เลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศ โตเลิม ได้เชิญ นาย เอ็มมานูเอล มาครงประธานาธิบดีฝรั่งเศสเดินทางไปเยือนเวียดนาม โดยนาย เอ็มมานูเอล มาครง ได้เผยว่า จะเดินทางมาเยือนเวียดนามในเวลาที่เหมาะสม
ในกรอบการเยือนฝรั่งเศส ได้มีการลงนามเอกสารและข้อตกลงความร่วมมือด้านการทูต วัฒนธรรม การศึกษา คมนาคมขนส่งและกิจการภายใน เป็นต้น.