ในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 19 กันยายน เลขาธิการสหประชาชาติยังแสดงความเป็นห่วงต่อกรณีการประท้วงภาพยนตร์สั้นหมิ่นศาสนาอิสลาม ในโลกมุสลิม จนลุกลามกลายเป็นการก่อเหตุรุนแรงในหลายประเทศและยํ้าว่า ผู้สร้างภาพยนตร์ได้ใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นในทางที่ผิดและน่าอับอาย ซึ่งการเผยแพร่ภาพยนต์ดังกล่าวบนอินเตอร์เนตได้ก่อให้เกิดกระแสการชุมนุมประท้วงในประเทศต่างๆ เช่น การชุมนุมของประชาชนอียิปต์นับพันคนด้านหน้าสถานทูตสหรัฐในกรุงไคโรเมื่อบ่ายวันที่ 11 กันยายน การบุกโจมตรีสถานกงสุลสหรัฐ ณ เมืองเบงกาซี ทางทิศตะวันออกของลิเบียในวันเดียวกันจนทำให้เจ้าหน้าที่สหรัฐ 4 คนเสียชีวิต รวมทั้ง นาย คริสโตเฟอร์ สตีเว่นส์ เอกอัคราชทูตสหรัฐประจำลิเบีย ในขณะเดียวกัน องค์การความร่วมมืออิสลาม หรือ OIC ได้เผยว่า จะพยายามเพื่อให้โทษดูหมิ่นศาสนาถูกระบุเป็นอาชญากรรมระหว่างประเทศ ส่วนคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนของ OIC ที่ประกอบไปด้วยสมาชิก 57 คนและมีสำนักงาน ณ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ได้เรียกร้องให้ผ่านความเห็นชอบต่อประมวลหลักปฏิบัติระหว่างประเทศสำหรับสื่อต่างๆและเครือข่ายสังคมออนไลน์ ซึ่งรวมถึงการห้ามเผยแพร่เอกสารที่มีเนื้อหาในเชิงยุยง./.