ในการกล่าวปราศรัยในพิธีเปิด นาย ลีเซียนลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ได้ย้ำว่า อาเซียนมีศักยภาพการพัฒนาเศรษฐกิจมากมาย โดยมีประชากรกว่า630ล้านคน อาเซียนได้รับการพยากรณ์ว่า จะกลายเป็นเศรษฐกิจรายใหญ่อันดับ4ของโลกในปี2030 รองจากสหรัฐ จีนและสหภาพยุโรปหรืออียู พร้อมทั้ง เผยว่า ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจในภูมิภาคและการผสมผสานเป็นกุญแจเพื่อให้อาเซียนใช้ประโยชน์จากศักยภาพของตน รวมทั้ง การปฏิบัติแผนการประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี2025 ช่วยเหลือระบบพหุภาคีที่เปิดเผยและครอบคลุมในสภาวการณ์ที่ความตึงเครียดทางการค้านับวันเพิ่มมากขึ้น แต่อย่างไรก็ดี นายกรัฐมนตรี ลีเซียนลุงได้เผยว่า อาเซียนกำลังต้องเผชิญกับความท้าทายไม่น้อย ประเทศสมาชิกอาเซียนต้องส่งเสริมความสามัคคีและพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อมุ่งสู่การลงนามข้อตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจในทุกด้านในภูมิภาคหรือ RCEPในปลายปีนี้เพื่อส่งเสริมการเชื่อมโยงด้านเศรษฐกิจและผลักดันการค้าและการลงทุน
ในกรอบการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนครั้งที่50 จะมีการจัดการประชุมสภาเขตการค้าเสรีอาเซียนหรือAFTAครั้งที่32 การประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนกับสภาเขตการลงทุนอาเซียนครั้งที่21 การประชุมทาบทามระหว่างอาเซียนกับ9ประเทศหุ้นส่วนและการประชุมรัฐมนตรีRCEPครั้งที่6 เป็นต้น.