(VOVWorld)-สถานการณ์ในประเทศตุรกีได้ตึงเครียดมากขึ้นภายหลังเกิดเหตุระเบิดที่เหมืองถ่านหินที่จังหวัดมานิซา เมื่อวันที่๑๓พฤษภาคม ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บนับร้อยคน โดยได้เกิดการปะทะระหว่างกองกำลังตำรวจกับกลุ่มผู้ชุมนุมในกรุงอังการาและเมืองอิสตันบูลในขณะที่สหภาพแรงงานตุรกีเรียกร้องให้นัดหยุดงานในวันที่๑๕พฤษภาคมนี้ โดยกองกำลังตำรวจต้องใช้แก๊สน้ำตาและรถฉีดน้ำเพื่อสลายกลุ่มผู้ชุมนุมรวม๓๐๐๐-๔๐๐๐คนที่จัตุรัสกีซีลัย ในกรุงอังการาและผู้ชุมนุมนับพันคนในเมืองอิสตันบูล กลุ่มผู้ชุมนุมได้กล่าวหารัฐบาลและหน่วยงานการทำเหมืองแร่ว่า ละเลยความรับผิดชอบ ก่อนหน้านั้น ตำรวจก็ต้องใช้แก๊สน้ำตาและรถฉีดน้ำเพื่อสลายนักศึกษา๘๐๐คน ที่ชุมนุมในบริเวณโดยรอบสำนักงานของกระทรวงพลังงาน
สำหรับกิจกรรมการกู้ภัย นาย เรเจป ไตยิป เอร์โดอาน นายกรัฐมนตรีตุรกีได้ยอมรับว่า นี่ถือเป็นภัยพิบัติที่หนักหน่วงที่สุดในประวัติศาสตร์ของตุรกี พร้อมทั้งให้คำมั่นว่า จะสืบสวนหาสาเหตุของอุบัติเหตุดังกล่าว ส่วนนาย ทาเนอร์ ยิลดิซ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานตุรกีได้เผยว่า จนถึงเช้าวันที่๑๕พฤษภาคม ได้มีผู้เสียชีวิต๒๗๔คนจากเหตุการณ์ดังกล่าว./.