นายเลเลืองมิงห์ให้สัมภาษณ์นอกรอบการสัมมนา

(VOVworld) – “กำหนดแนวทางสร้างสรรค์ประชาคมอาเซียนหลังปี 2015 - ทัศนะของบรรดาประเทศอาเซียนและเวียดนาม”คือหัวข้อของการสัมมนาที่มีขึ้น ณ กรุงฮานอยในเช้าวันที่ 3 ธันวาคมในกรอบโครงการ “เพิ่มทักษะเพื่อการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกอย่างกว้างขวางและลึกซึ้งจนถึงปี 2020ของเวียดนาม”ที่จัดโดยกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามและโครงการพัฒนาสหประชาชาติประจำเวียดนาม  ในการกล่าวปราศรัยในการสัมมนา นายฝ่ามกวางวิง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามได้ย้ำว่า อาเซียนได้สร้างสรรค์และพัฒนาบทบาทเป็นแกนหลักอย่างจริงจังในโครงสร้างภูมิภาคใหม่เพื่อกระชับและรักษาบรรยากาศแห่งความมั่นคง สันติภาพ เสถียรภาพและพัฒนาในภูมิภาค ยิ่งไปกว่านั้น อาเซียนยังได้โน้นน้าวให้หุ้นส่วนสำคัญและบรรดาประเทศใหญ่ๆเข้าร่วมกับภูมิภาคบนเจตนารมณ์แห่งความร่วมมือ สร้างสรรค์ แลกเปลี่ยนมาตรฐานการปฏิบัติและสนับสนุนบทบาทเป็นแกนนำของอาเซียนในการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับสันติภาพ ความมั่นคงและภูมิภาค ซึ่งช่วยสร้างพื้นฐาน เป็นพลังขับเคลื่อนและสร้างบรรยากาศการพัฒนาที่สะดวกให้แก่อาเซียนในอนาคต แต่อย่างไรก็ตาม ในโลกที่มีทั้งโอกาสและความท้าทาย อาเซียนต้องมีความเห็นพ้องกันในการเข้าถึงการร่างเนื้อหาของวิสัยทัศน์ปี 2015 ที่ถือเป็นการสานต่อกระบวนการสร้างสรรค์ประชาคมอาเซียนบน 3 เสาหลักคือ ความมั่นคง เศรษฐกิจและวัฒนธรรม – สังคม นายฝ่ามกวางวิงเผยว่า “เพื่อสามารถพัฒนาได้ในช่วงหลังปี 2015 อาเซียนต้องบรรลุมาตรฐานต่างๆตรงตามกำหนดและตรงเป้าหมายที่วางไว้เพราะถ้าหากบรรลุไม่ได้ จะไม่มีพลังขับเคลื่อนเพื่อการพัฒนา แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อสามารถบรรลุเป้าหมายดังกล่าว อาเซียนควรมีความก้าวหน้าในการเชื่อมโยงและผสมผสานทางเศรษฐกิจโดยต้องมีการปฏิบัติอย่างเคร่งครัดยิ่งขึ้นในระดับประเทศและระดับภูมิภาค”
 นายเลเลืองมิงห์ เลขาธิการอาเซียนได้ชื่นชมส่วนร่วมของเวียดนามนับตั้งแต่ที่เข้าร่วมอาเซียนเมื่อปี 1995 และหวังว่า เวียดนามจะปฏิบัติบทบาทสมาชิกที่กระตือรือร้นและเป็นฝ่ายรุกในภารกิจของอาเซียนหลังปี 2015และได้กล่าวว่า “ก่อนอื่นต้องเน้นให้ความสำคัญต่อการศึกษา ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักในยุทธศาสตร์การพัฒนาของเวียดนามเพราะการศึกษามีบทบาทสำคัญในการลดช่องว่างการพัฒนาระหว่างบรรดาประเทศสมาชิกอาเซียนและระหว่างอาเซียนกับบรรดาประเทศหุ้นส่วน ปัจจัยที่ดึงดูดนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในภูมิภาคนี้คือแหล่งบุคลากรรุ่นใหม่และนับวันยิ่งมีคุณภาพสูงขึ้น  สองคือเวียดนามต้องยกระดับความรู้และจิตสำนึกของประชาชนโดยเฉพาะเยาวชน นักศึกษาและนักเรียนเกี่ยวกับประชาคมอาเซียน”./.