โรงงานผลิตสิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูปของเวียดนาม (vietnamplus) |
ทูตพาณิชย์เวียดนามประจำอิตาลี เหงียนดึ๊กแถ่ง แสดงความเห็นว่า ข้อตกลงการค้าเสรีเวียดนาม-สหภาพยุโรปหรืออีวีเอฟทีเอที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 สิงหาคมนี้จะสร้างโอกาสให้แก่เวียดนามในการเข้าถึงตลาดที่มีประชากร 450 ล้านคน อีกทั้งดึงดูดกระแสเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศหรือเอฟดีไอที่มีคุณภาพสูงจากสหภาพยุโรปหรืออียูเข้าเวียดนาม ตลอดจนปรับปรุงสถานะของเวียดนามในห่วงโซ่อุปทานโลกตามแนวทางสร้างมูลค่าเพิ่ม ในสภาวการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19ในปัจจุบัน บรรดานักวิเคราะห์ได้ปรับลดการพยากรณ์ตัวเลขการส่งออกของเวียดนามไปยังอียู โดยอาจเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 5 ในปี 2020 และกลับมามีเสถียรภาพในปี 2021
ตามความเห็นของนาย เหงียนดึ๊กแทง ในเดือนสิงหาคมนี้ เมื่อคำมั่นของอีวีเอฟทีเอมีผลบังคับใช้ก็เป็นช่วงที่เศรษฐกิจของอียูและโลกอาจเข้าสู่ภาวะปกติภายใต้รูปแบบชีวิตวิถีใหม่ อีวีเอฟทีเอจะสร้างความได้เปรียบเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะภาษีให้แก่สถานประกอบการเวียดนามและอียู
สำหรับตลาดอิตาลี นาย เหงียนดึ๊กแถ่ง เผยว่า เวียดนามอาจใช้อีวีเอฟทีเอเพื่อผลักดันการพัฒนาตลาดนี้มากขึ้น รวมทั้งสินค้าที่มีศักยภาพ เช่น มอเตอร์ไฟฟ้าที่ได้รับการยกเว้นภาษี100% โทรศัพท์ได้รับการยกเว้นภาษีร้อยละ 98และน้ำผึ้ง เป็นต้น สำหรับข้าว อียูจะนำเข้าข้าวของเวียดนาม 8 หมื่นตันต่อปีและไม่มีโควต้าในการนำเข้าข้าวหักจากเวียดนาม.