(VOVworld) – เมื่อเช้าวันที่ 12 เมษายน ณ สำนักรัฐบาล ท่านเหงียนซวนฟุ๊ก นายกรัฐมนตรีได้ให้การต้อนรับนาย ฟิลิป แฮมมอนด์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษที่กำลังอยู่ระหว่างการเยือนเวียดนาม โดยแสดงความประสงค์ว่า ผู้ประกอบการอังกฤษจะให้ความสนใจและลงทุนในเวียดนามมากขึ้น โดยเฉพาะในด้านที่ถือเป็นจุดแข็งของอังกฤษ เช่น การเงิน ธนาคาร การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การประกันภัย วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และเรียกร้องให้รัฐบาลอังกฤษผลักดันการลงนามอนุมัติข้อกตลงการค้าเสรีอย่างเป็นทางการโดยเร็ว เพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่ทั้งสองฝ่ายและเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับอียูและอังกฤษ
ท่านเหงียนซวนฟุ๊ก นายกรัฐมนตรีได้ให้การต้อนรับนาย ฟิลิป แฮมมอนด์ (Photo VGP)
|
นายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุ๊กยังชื่นชมปฏิญญาของการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศจี 7 ณ เมืองฮิโรชิมาเกี่ยวกับปัญหาทะเลตะวันออกเพื่อเป้าหมายร่วมกันคือค้ำประกันให้แก่การเดินเรือและการบินอย่างเสรี ไม่มีปฏิบัติการที่ก่อความตึงเครียดในภูมิภาคและผิดกฎหมายสากล นายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุ๊กยังเรียกร้องให้รัฐบาลอังกฤษให้ความสนใจมากขึ้นและมีเสียงพูดที่เข้มแข็งมากขึ้นเพื่อเรียกร้องให้จีนให้ความเคารพกฎหมายสากล รวมทั้งอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982 แก้ไขการพิพาทด้วยสันติวิธี ไม่ใช้หรือข่มขู่ที่จะใช้กำลัง ยุติปฏิบัติการที่เปลี่ยนสภาพเดิมของทะเลตะวันออก โดยเฉพาะการก่อสร้างเกาะเทียมและปฏิบัติการทางทหารในทะเลตะวันออก ปฏิบัติแถลงการณ์เกี่ยวกับการปฏิบัติต่อกันของทุกฝ่ายในทะเลตะวันออกหรือดีโอซีอย่างสมบูรณ์และเจรจากันเพื่อจัดทำร่างระเบียบการปฏิบัติต่อกันในทะเลตะวันออกหรือซีโอซีอย่างจริงจัง
นายฝามบิ่งมิงห์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามได้เจรจากับนาย ฟิลิป แฮมมอนด์
|
ในวันเดียวกัน นายฝามบิ่งมิงห์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามได้เจรจากับนาย ฟิลิป แฮมมอนด์ โดยทั้งสองฝ่ายได้แสดงความปรารถนาว่า จะผลัดกันการปฏิบัติโครงการร่วมมือก่อสร้างมหาวิทยาลัยเวียดนาม – อังกฤษในประเทศเวียดนาม ขยายความร่วมมือในการฝึกสอนอาชีพเพื่อพัฒนาแหล่งบุคลากรที่มีคุณภาพสูงในเวียดนามและอำนวยความสะดวกให้นักศึกษาเวียดนามเดินทางไปศึกษาในอังกฤษ
ส่วนนาย ฟิลิป แฮมมอนด์ ได้ย้ำว่า อังกฤษให้ความสำคัญต่อบทบาทการพัฒนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์กับเวียดนามในช่วงที่อังกฤษกำลังสร้างสรรค์ความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในภูมิภาคเอเชีย – แปซิฟิกในศตวรรษที่ 21 พร้อมทั้งย้ำว่า ข้อตกลงการค้าเสรีอียู – เวียดนามจะเปิดโอกาสให้แก่การขยายความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนระหว่างสองประเทศ ตลอดจนแจ้งว่า กองทุนเพื่อความเจริญรุ่งเรืองของรัฐบาลอังกฤษจะให้การช่วยเหลือประเทศที่มีรายได้ปานกลางในภูมิภาค รวมทั้งเวียดนามเพื่อสร้างบรรยากาศการประกอบธุรกิจอย่างโปร่งใสและเปิดกว้างเพื่อค้ำประกันให้แก่การพัฒนาอย่างยั่งยืนในอนาคตบนพื้นฐานการให้ความเคารพกฎหมายและสิทธิมนุษยชน.