ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมปและผู้นำของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี คิมจองอึน (AFP) |
นาย ลีเซียนลุง ได้แสดงความเห็นว่า แถลงการณ์ร่วมที่ทั้งสองฝ่ายลงนามคือก้าวเดินที่น่าประทับใจและสำคัญในกระบวนการมุ่งสู่สันติภาพที่ยาวนานและยั่งยืนบนคาบสมุทรเกาหลีที่ปลอดนิวเคลียร์
ในขณะเดียวกัน นาง เฟเดอร์ริกา โมกรีนี ตัวแทนระดับสูงดูแลนโยบายความมั่นคงและการต่างประเทศของสหภาพยุโรปหรืออียูได้ย้ำว่า การประชุมสุดยอดครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างสหรัฐกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีคือ “ก้าวเดินที่จำเป็นและสำคัญ” ซึ่งแสดงให้เห็นว่า การปลอดนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลีสามารถบรรลุได้
ในวันเดียวกัน รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ โบริส จอห์นสัน ได้ประกาศว่า รัฐบาลอังกฤษชื่นชมการที่ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์และผู้นำของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี คิมจองอึนได้เข้าร่วมการพบปะสุดสอดที่มีลักษณะสร้างสรรค์ ซึ่งนี่คือก้าวเดินสำคัญเพื่อมุ่งสู่ความมีเสถียรภาพของภูมิภาคที่มีบทบาทสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก
ส่วนสำนักข่าว RIA Novosti ได้อ้างคำประกาศของรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เก ลาฟรอฟว่า มอสโคว์ชื่นชมการพบปะสุดยอดระหว่างสหรัฐกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีและย้ำว่า นี่คือก้าวเดิน “ที่น่ายินดี”
เช่นเดียวกับความเห็นดังกล่าว นาย ยูกิยะ อามาโนะ ผู้อำนวยการใหญ่สำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศหรือไอเออีเอได้ “ชื่นชมแถลงการณ์ร่วมในการพบปะสุดยอดระหว่างนาย โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐกับนาย คิมจองอึน ผู้นำของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี ณ สิงคโปร์ รวมทั้งคำมั่นของทางการเปียงยางเกี่ยวกับการมุ่งสู่การปลอดนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลี”.