หนังสือพิมพ์ Japan Times ลงบทความที่พาดหัวว่า "เวียดนามรับบทบาทสร้างสันติภาพจากการพบปะสุดยอดสหรัฐ-สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีครั้งที่2ที่มีขึ้นในสภาวการณ์แห่งการแสวงหาแนวทางสร้างความเท่าเทียมในสัมพันธ์ด้านการทูตกับทุกฝ่าย " โดยได้ให้ข้อสังเกตว่าเวียดนามมีบทบาทเป็นหุ้นส่วนเพื่อผลักดันสันติภาพ พร้อมทั้งได้อ้างคำกล่าวของเจ้าหน้าที่เวียดนามที่ย้ำว่าการที่เวียดนามได้รับเลือกเป็นสถานที่จัดการพบปะครั้งสำคัญนี้ได้เป็นการพิสูจน์ว่าเวียดนามกำลังมีบทบาทของประเทศที่น่าไว้วางใจและมีความรับผิดชอบของประชาคมระหว่างประเทศ เวียดนามประเทศที่เคยผลักดันสันติภาพกับประเทศที่เคยเผชิญหน้ากับเวียดนามในอดีตและปัจจุบันเวียดนามกำลังช่วยประเทศอื่นทำในสิ่งที่มีความหมายเช่นเดียวกัน
เว็บไซต์ของโทรทัศน์ญี่ปุ่น NHK ได้ลงบทสัมภาษณ์อดีตเอกอัครราชทูตเวียดนามประจำสหรัฐ เหงวียนเติมเจี๊ยน โดยได้แสดงความเห็นว่าเวียดนามได้รับเลือกให้เป็นจุดหมายเพื่อการพบปะของผู้นำสหรัฐ-สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีเนื่องจากเวียดนามได้ปฏิบัตินโยบายการทูตพหุภาคีเพื่อมุ่งสู่สันติภาพและความมีเสถียรภาพ
หนังสือพิมพ์ ทูเดย์ ของสิงคโปร์ได้รายงานข่าวความประทับใจกับภาพของเขตตัวเมืองและถนนสายต่างๆในใจกลางกรุงฮานอยท่ามกลางบรรยากาศการจัดเหตุการณ์ครั้งประวัติศาสตร์ที่ทั้งโลกจับตามอง โดยกรุงฮานอยได้รับการตกแต่งด้วยโพสเตอร์คำขวัญ ธงทิวดอกไม้อย่างสวยงามที่สะท้อนความเป็นมิตรและอารยธรรมของชาวเวียดนาม
กาอนหน้านั้น ช่องข่าว Channel NewsAsia ของสิงคโปร์ก็รายงานข่าวขบวนรถไฟของผู้นำสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีเดินทางถึงสถานีด่งดังในจังหวัดหลางเซินของเวียดนามภายหลังใช้เวลาเดินทางกว่า60ชั่วโมงด้วยระยะทางกว่า4พันกิโลเมตรเพื่อมาเข้าร่วมการประชุมสุดยอดกับผู้นำสหรัฐ ในขณะที่ประธานาธิบดีสหรัฐได้เดินทางถึงฮานอยด้วยเครื่องบิน.