ภาพของการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน(Photo: TTXVN) |
สำนักข่าวเกียวโดได้ลงบทความภายใต้หัวข้อ “ญี่ปุ่นและเวียดนามเห็นพ้องที่จะร่วมมือเพื่อรักษาสันติภาพในทะเลตะวันออก” โดยอ้างคำกล่าวของนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนร่วมหลังการเจรจาว่า ถึงแม้ญี่ปุ่นไม่อยู่ในเขตทะเลตะวันออกแต่ได้ถือเขตทะเลนี้เป็นเส้นทางขนส่งทางทะเลที่สำคัญเชิงยุทธศาสตร์ นอกจากนี้ นาย ชินโซ อาเบะยังย้ำถึงความตั้งใจในการพัฒนามหาสมุทรอินเดีย-แปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้าง ส่วนนายกรัฐมนตรีเวียดนาม เหงวียนซวนฟุกได้เผยว่า ทั้งสองฝ่ายได้ยืนยันถึงความจำเป็นที่จะต้องรักษาสันติภาพ ความปลอดภัยและเสรีภาพในการเดินเรือทางทะเลและการบินในทะเลตะวันออก พร้อมทั้ง ให้การสนับสนุนความพยายามและความคิดริเริ่มของญี่ปุ่นในการค้ำประกันความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ การค้าเสรีและความปลอดภัยในการเดินเรือในมหาสมุทรอินเดีย-แปซิฟิก
ส่วนบทความภายใต้หัวข้อ “การเจรจาระหว่างนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะกับนายกรัฐมนตรีเวียดนาม ผลักดันความร่วมมือเพื่อส่งเสริมให้ข้อตกลงCPTPPมีผลบังคับใช้โดยเร็ว”ที่ลงบนเว็บไซต์ของสถานีโทรทัศน์NHK ได้เผยว่า ผู้นำทั้งสองประเทศได้เห็นพ้องที่จะผลักดันความร่วมมือเพื่อค้ำประกันความมั่นคงทางทะเลเพื่อพัฒนามหาสมุทรอินเดีย-แปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้าง สำหรับข้อตกลงCPTPP ผู้นำทั้งสองประเทศได้เห็นพ้องที่จะผลักดันความร่วมมือเพื่อส่งเสริมการค้าเสรีและส่งเสริมให้ข้อตกลงCPTPPมีผลบังคับใช้โดยเร็ว
ส่วนในด้านความร่วมมืออื่นๆ สถานีโทรทัศน์NHKได้อ้างคำกล่าวของนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะว่า ญี่ปุ่นและเวียดนามผลักดันความร่วมมือเพื่อเป้าหมายการพัฒนาในเขตแม่โขง โดยเฉพาะ ระหว่างสองประเทศ ส่วนนายกรัฐมนตรีเวียดนามได้ชี้ชัดว่า ในยุทธศาสตร์การพัฒนาของเวียดนาม ญี่ปุ่นมีบทบาทสำคัญเป็นอย่างยิ่งและแสดงความประสงค์ว่า ความสัมพันธ์ทวิภาคีจะนับวันพัฒนามากขึ้น.