บทความเกี่ยวกับนโยบาย "“การทูตต้นไผ่เวียดนาม”ที่ลงบนเว็บไซต์ Financial Times (Photo: TTXVN) |
สำนักข่าว TASS ของรัสเซียได้เปิดคอลั่มพิเศษเพื่ออัพเดทกิจกรรมต่างๆในกรอบการเยือนของประธานาธิบดี ปูติน ซึ่งบทความต่างๆย้ำถึงความสัมพันธ์ทางประวัติศาสตร์ของทั้งสองประเทศและความร่วมมือทวิภาคี
เว็บไซต์ Vesti.ru รายงานว่า การเยือนของประธานาธิบดีรัสเซียจะมีส่วนร่วมต่อการผลักดันความสัมพันธ์ร่วมมือระหว่างสองประเทศให้ขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่ เว็บไซต์ Fontanka.ru และสำนักข่าว RIA Novosti เผยว่า ประธานาธิบดี ปูติน กล่าวขอบคุณการต้อนรับอย่างอบอุ่นของประชาชนเวียดนาม
เว็บไซต์ Ura.ru เผยว่า ในการพบปะกับนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ประธานาธิบดี ปูติน ได้ยืนยันว่า รัสเซียพร้อมจัดสรรปิโตรเลียมในระยะยาวให้แก่เวียดนาม รวมทั้ง ก๊าซธรรมชาติเหลว พร้อมทั้งยืนยันถึงความสำเร็จในความร่วมมือด้านพลังงานระหว่างสองประเทศและการเข้าร่วมของรัสเซียในโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าในเวียดนาม
สำนักข่าวเกียวโดของญี่ปุ่นได้ชี้ชัดว่า นี่เป็นการเยือนอย่างเป็นทางการครั้งแรกของประธานาธิบดีรัสเซียนับตั้งแต่การเยือนเมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2013 วัตถุประสงค์ของการเยือนครั้งนี้ก็เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์มิตรภาพที่มีมาช้านานระหว่างสองประเทศ ส่วนหนังสือพิมพ์ นิเคอิเอเชียได้รายงานว่า ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามเอกสารความร่วมมือ 11 ฉบับในด้านต่างๆ
เว็บไซต์ euronews.com ของยุโรปได้ย้ำว่า การเยือนเวียดนามของประธานาธิบดี ปูติน มีวัตถุประสงค์เพื่อริมสร้างความสัมพันธ์กับประเทศต่างๆในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เว็บไซต์ Financial Times ของอังกฤษได้ประเมินว่า เวียดนามได้บรรลุผลงานต่างๆในแนวทางการต่างประเทศ “การทูตต้นไผ่เวียดนาม” ยืนยันแนวทางเป็นเพื่อน เป็นหุ้นส่วนที่น่าไว้วางใจของทุกประเทศ เพื่อสันติภาพ เสถียรภาพและความมั่นคงในภูมิภาคและโลก โดยอ้างคำกล่าวของนักวิจัย เลห่งเหียบ จากสถาบัน ISEAS - Yusof Ishak สิงคโปร์ว่า การเยือนของประธานาธิบดี ปูติน ได้แสดงให้เห็นถึงแนวทางการต่างประเทศเวียดนามที่สมดุลย์และหลากหลาย ธำรงความสัมพันธ์ที่ดีงามกับทุกประเทศใหญ่ในโลก ซึ่งแนวทางนี้มีบทบาทที่สำคัญในการช่วยให้เวียดนามดึงดูดการลงทุนจากหุ้นส่วนต่างๆ
วันที่ 20 มิถุนายน เว็บไซต์ The Guardian.com ของอังกฤษได้ลงบทความที่พาดหัวว่า “รัสเซียและเวียดนามเห็นพ้องผลักดันความสัมพันธ์ทวิภาคีในกรอบการเยือนเวียดนามของประธานาธิบดีรัสเซีย” โดยเผยว่า ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามเอกสารความร่วมมือ 11 ฉบับ ในการกล่าวปราศรัยกับสื่อมวลชน ประธานาธิบดี วลาดีเมียร์ ปูตินได้เผยว่า การเจรจากับผู้นำเวียดนามได้ดำเนินไปในเชิงสร้างสรรค์ ทั้งสองฝ่ายมีจุดยืนที่คล้ายคลึงกันเกี่ยวกับปัญหาระหว่างประเทศที่สำคัญ เว็บไซต์ France24.com ของฝรั่งเศสได้ลงบทความ “ประธานาธิบดี วลาดีเมียร์ ปูติน ลงนามข้อตกลงความร่วมมือกับเวียดนามเพื่อผลักดันความสัมพันธ์กับเอเชีย”
สถานีวิทยุ DW ของเยอรมนีได้รายงานว่า การพบปะระหว่างประธานาธิบดีปูตินกับผู้นำเวียดนามเน้นหารือถึงด้านเศรษฐกิจ การศึกษาและพลังงาน เวียดนามเป็นประเทศที่สามที่ประธานาธิบดี ปูติน มาเยือนนับตตั้งแต่ขึ้นดำรงตำแหน่งวาระที่ 5 เมื่อเดือนพฤษภาคมต่อจากจีนและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี
หนังสือพิมพ์ The Washington Post ของสหรัฐได้อ้างการประเมินของศาสตราจารย์ Alexander Vuving จากศูนย์วิจัยด้านความมั่นคงภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ของสหรัฐว่า เวียดนามมีสถานะเชิงยุทธศาสตร์ในภูมิภาคที่นับวันดึงดูดความสนใจของประเทศมหาอำนาจในโลกมากขึ้น ส่วนบทความของสำนักข่าว AP รายงานว่า เวียดนามนับวันมีบทบาทที่สำคัญในห่วงโซ่อุปทานโลก ในรอบไม่ถึง 1 ปี ผู้นำประเทศต่างๆ เช่น ประธานาธิบดีสหรัฐ โจ ไบเดน ประธานประเทศจีน สีจิ้นผิงและประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดีเมียร์ ปูตินได้มาเยือนเวียดนาม.