ในกรอบการเยือน คณะฯได้มีการพบปะกับนาย แอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ นาย เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ นาง ซามานธา เพาเวอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานการพัฒนาระหว่างประเทศสหรัฐและนาย แดเนียล คริสเทนบริงก์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศฝ่ายกิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก เป็นต้น ในการนี้ ทั้งสองฝ่ายได้ประเมินว่า ความสัมพันธ์หุ้นส่วนในทุกด้านระหว่างสองประเทศในหลายปีที่ผ่านมาได้พัฒนาอย่างเข้มแข็งและรอบด้าน ผู้นำของสหรัฐได้ยืนยันว่า สหรัฐถือเวียดนามเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนที่สำคัญในภูมิภาค ความสัมพันธ์ทวิภาคีได้รับการสนับสนุนจากทั้งพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกัน พร้อมทั้งแสดงความประสงค์ที่จะธำรงการพบปะแลกเปลี่ยนในทุกระดับ กระชับความร่วมมือทวิภาคี โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจ การรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ พลังงานสีเขียว การศึกษาและฝึกอบรม การแก้ไขผลเสียหายจากสงครามและการพบปะสังสรรค์ระดับประชาชน
ส่วนนาย เลหว่ายจุง หัวหน้าคณะกรรมการวิเทศสัมพันธ์ส่วนกลางได้ยืนยันว่า เวียดนามให้ความสำคัญต่อความสัมพันธ์กับสหรัฐ พร้อมทั้งเสนอให้ทั้งสองฝ่ายปฏิบัติผลการพูดคุยทางโทรศัพท์ระหว่างเลขาธิการใหญ่พรรคฯ เหงวียนฟู้จ่องกับประธานาธิบดี โจ ไบเดน ผลักดันการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนระดับสูง ยกระดับประสิทธิภาพความร่วมมือผ่านช่องทางของพรรค การทูต รัฐและการต่างประเทศระดับประชาชน ในการพบปะกับเพื่อนมิตรสหรัฐที่มีความผูกพันกับเวียดนาม เพื่อนมิตรฝ่ายซ้ายของสหรัฐ และตัวแทนของพรรคคอมมิวนิสต์สหรัฐ นาย เลหว่ายจุง ได้กล่าวถึงแนวทางผลักดันความร่วมมือกับพรรคคอมมิวนิสต์สหรัฐและองค์กรการเมืองและสังคมระหว่างสองประเทศในเวลาที่จะถึง
ที่นครนิวยอร์ก คณะฯได้พบปะกับนาย Guy Ryder รองเลขาธิการใหญ่สหประชาชาติที่ดูแลนโยบาย ประชุมผ่านทางวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับนาย จอห์น แคร์รี ทูตพิเศษของสหรัฐเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศ ในการนี้ ผู้บริหารสหประชาชาติได้ชื่นชมผลสำเร็จในการพัฒนา ความร่วมมือและส่วนร่วมของเวียดนามในกรอบของสหประชาชาติ พร้อมทั้งแสดงความประสงค์ว่า เวียดนามจะส่งเสริมบทบาทที่สำคัญในปัญหาระดับโลกมากขึ้น ส่วนนาย เลหว่ายจุงได้ยืนยันว่า เวียดนามให้ความสำคัญต่อบทบทของสหประชาชาติ มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันและมีความรับผิดชอบต่อกิจกรรมต่างๆของประชาคมโลก .