ประเทศต่างๆทั่วโลกได้มีท่าทีต่างๆต่อการโจมตีดังกล่าว โดยประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดีเมียร์ ปูตินได้กล่าวว่า นี่คือการละเมิดกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายสากล โดยย้ำว่า เป็นพฤติกรรมที่เป็นอริต่อรัฐที่มีอธิปไตยและรัสเซียประท้วงพฤติกรรมดังกล่าว การที่บรรดาประเทศมหาอำนาจฝ่ายตะวันตกโจมตีซีเรียจะส่งผลเสียด้านมนุษยธรรมอย่างรุนแรง การกระทำดังกล่าวของวอชิงตันได้ส่งผลให้เกิดกระแสผู้อพยพใหม่จากซีเรียและภูมิภาค รัสเซียจะเรียกประชุมฉุกเฉินของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเพื่อหารือเกี่ยวกับการโจมตีนี้
ในวันเดียวกัน อิหร่านได้เตือนว่า การโจมตีครั้งนี้ของสหรัฐ อังกฤษและฝรั่งเศสจะสร้างผลเสียหายให้แก่ภูมิภาค พร้อมทั้งกล่าวตำหนิว่าการโจมตีได้มีขึ้นในขณะที่สหรัฐและพันธมิตรยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนและยังไม่มีผลการสืบสวนจากองค์การห้ามอาวุธเคมีหรือ OPCW ซึ่งต้องรับผิดชอบต่อผลร้ายที่เกิดขึ้นในภูมิภาคหลัง “ปฏิบัติการที่อันตราย”นี้
สำนักข่าวรอยเตอร์ของอังกฤษได้อ้างคำประกาศของเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนหนึ่งของอิสราเอลว่า การโจมตีคือคำเตือนเกี่ยวกับการใช้อาวุธเคมี
ในขณะเดียวกัน กระทรวงการต่างประเทศซีเรียได้ประณามการโจมตีดังกล่าวว่า เป็น “การกระทำที่กระหายสงคราม โหดร้ายและโหดเหี้ยม” ซึ่งจะเพิ่มความตึงเครียดในโลกและเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงระหว่างประเทศ
ประเทศต่างๆ เช่น จีน อิหร่าน คิวบาและโบลิเวียก็ได้ออกมาประท้วงการโจมตีดังกล่าวเช่นกัน
ในขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ชินโซ อาเบะได้เผยว่า ญี่ปุ่นสนับสนุนการตัดสินใจของสหรัฐ อังกฤษและฝรั่งเศสในการโจมตีทางอากาศใส่สถานที่ถือว่าเกี่ยวข้องกับคลังอาวุธเคมีของซีเรียเพื่อเป้าหมายยับยั้งการใช้อาวุธเคมี รัฐบาลญี่ปุ่นจะจัดการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติในวันนี้
ส่วนนายกรัฐมนตรีแคนาดา จัสติน ทรูดอ ได้ย้ำว่า สนับสนุนการตัดสินใจของสหรัฐ อังกฤษและฝรั่งเศสในการลดภัยคุกคามจากการโจมตีด้วยอาวุธเคมีของรัฐบาลซีเรียใส่ประชาชนซีเรีย” และยืนยันว่า แคนาดาจะหารือกับหุ้นส่วนนานาชาติเพื่อสืบสวนเกี่ยวกับการใช้อาวุธเคมีในซีเรีย
นาย Jens Stoltenberg เลขาธิการนาโต้ได้เผยว่า สนับสนุนการโจมตีดังกล่าวเพื่อลดความเป็นไปได้ที่รัฐบาลดามัสกัสจะใช้อาวุธเคมีโจมตีประชาชนซีเรียอีก
รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนี Heiko Maas ก็แสดงการสนับสนุนแต่ย้ำถึงมาตรการทางการเมืองเพื่อแก้ไขปัญหาซีเรียอย่างเด็ดขาด
ส่วนนาย อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติได้ย้ำว่า กฎบัตรสหประชาชาติได้ระบุอย่างชัดเจนว่า ทุกประเทศมีหน้าที่ปฏิบัติตามกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายสากล โดยเฉพาะในการแก้ไขปัญหาสันติภาพและความมั่นคง คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติมีหน้าที่หลักในการธำรงสันติภาพและความมั่นคงของโลก นาย อันโตนิโอ กูเตอร์เรสได้เรียกร้องให้ทุกประเทศสมาชิกของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติสามัคคีกันและปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว.