รองนายกรัฐมนตรี ฝามบิ่งมิงได้ยืนยันถึงคำมั่นของเวียดนามในการร่วมกับบรรดาประเทศสมาชิกและผู้นำสหประชาชาติส่งเสริมการปฏิบัติระเบียบวาระการประชุมที่สำคัญ การปฏิบัติเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน การรักษาสันติภาพในภูมิภาคและโลก พร้อมทั้งย้ำถึงการที่เวียดนามผลักดันการปฏิบัติคำมั่นในการประชุม COP 26 เกี่ยวกับการลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้อยู่ที่ 0% ภายในปี 2050และเสนอให้สหประชาชาติช่วยเหลือในกระบวนการสถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนการปรับเปลี่ยนการใช้พลังงานอย่างยุติธรรม ส่วนเลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ อันโตนิโอ กูเตอร์เรส  ได้ยืนยันว่า สหประชาชาติจะให้ความช่วยเหลือเวียดนามในการปฏิบัติประเด็นที่ได้รับความสนใจในการพัฒนาตามแนวทางที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ยั่งยืน การปรับเปลี่ยนอย่างยุติธรรม โดยเฉพาะการเข้าถึงการเงิน พร้อมทั้งเชื่อมั่นว่า เวียดนามจะส่งเสริมบทบาทมากขึ้นและมีส่วนร่วมต่อการแก้ไขปัญหาระดับโลก

ส่วนในการพบปะกับประธานสัมชชาใหญ่สหประชาชาติสมัยที่ 77 Csaba Korosi  รองนายกรัฐมนตรี ฝามบิ่งมิง ได้ยืนยันว่า ในฐานะรองประธานสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ เวียดนามจะมีส่วนร่วมต่อผลสำเร็จของการประชุม สำหรับปัญหาการบริหารจัดการแหล่งน้ำ รองนายกรัฐมนตรี ฝามบิ่งมิงได้เผยว่า เวียดนามถือแหล่งน้ำเป็นปัญหาความมั่นคงที่สำคัญเนื่องจากได้รับผลกระทบจากเหตุภัยแล้ง เหตุน้ำท่วม ปัญหาน้ำทะเลหนุน การพัฒนาและการใช้ประโยชน์จากแหล่งน้ำมากเกินไป พร้อมทั้งยืนยันว่า เวียดนามมีจุดยืนคือไม่แลกสิ่งแวดล้อมกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ต้องสร้างความสมดุลย์ระหว่างการพัฒนาเศรษฐกิจกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ส่วนนาย Csaba Korosi ได้แสดงความประสงค์ว่า เวียดนามจะเข้าร่วมอย่างเข้มแข็งและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการประชุมของสหประชาชาติเกี่ยวกับน้ำในเดือนมีนาคมปี 2023

ในวันเดียวกัน รองนายกรัฐมนตรี ฝามบิ่งมิง ได้พบปะกับนายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์ มาร์ค รูทท์ ทั้งสองฝ่ายยืนยันถึงการผลักดันการพัฒนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนในทุกด้านระหว่างสองประเทศ เห็นพ้องผลักดันการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนระดับสูง ฟื้นฟูกลไกความร่วมมือทวิภาคีที่ชะงักงันเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19

ในโอกาสนี้ รองนายกรัฐมนตรี ฝามบิ่งมิง ยังมีการพบปะกับรัฐมนตรีต่างประเทศของประเทศต่างๆ เช่น เซียร์ราลีโอน  กินี-บิสเซา มาลาวีเพื่อผลักดันความสัมพันธ์ทวิภาคี.

ฝามฮวน-นักข่าววีโอวีประจำประเทศสหรัฐ