นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุกและประธานสภาแห่งชาติ เหงวียนถิกิมเงินเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำสตรีอาเซียน |
นี่เป็นกิจกรรมที่สำคัญในกรอบกิจกรรมรำลึกครบรอบ 25 ปีการอนุมัติหลักปฏิบัติปักกิ่งเกี่ยวกับความเสมอภาคทางเพศ ในการกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุกได้ย้ำถึงบทบาทของสตรีต่อการพัฒนาของทุกประเทศ โดยเฉพาะ ในการรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 แต่อย่างไรก็ดี สตรีกำลังต้องเผชิญกับความท้าทายต่างๆในหลายด้านที่นับวันเพิ่มมากขึ้น ตามข้อมูลสถิติของสหประชาชาติ จนถึงปี 2021 จะมีสตรีและเด็กผู้หญิง 435 ล้านคนที่ตกเข้าสู่ภาวะยากจน ซึ่งในนั้น สตรีและเด็กหญิง 47 ล้านคนจะได้รับผลกระทบโดยตรงจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ดังนั้น สตรีต้องได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆในนโยบายรับมือและแก้ไขผลกระทบจากวิกฤตโควิด –19ทั้งในระดับประเทศและภูมิภาค ส่วนนาง เหงวียนถิกิมเงิน ประธานสภาแห่งชาติเวียดนามได้กล่าวยืนยันว่า “อาเซียนต้องให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อสตรีในกระบวนการฟื้นฟู ส่งเสริมบทบาทการเป็นผู้นำและเสียงพูดของสตรีในการจัดทำนโยบายต่างๆและเพิ่มสิทธิอำนาจด้านเศรษฐกิจให้แก่สตรี ถือความเสมอภาคทางเพศและการมอบอำนาจให้แก่สตรีเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจในการจัดทำวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียนหลังปี 2025 อาเซียนต้องมีวิธีการเข้าถึงใหม่ มีความคิดสร้างสรรค์และมีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อส่งเสริมบทบาทของสตรี โดยเฉพาะ ต้องใช้ประโยชน์จากการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยเฉพาะ เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อเพิ่มทักษะความสามารถและส่งเสริมศักยภาพของสตรี”
สำหรับการเพิ่มอำนาจให้แก่สตรี สมเด็จพระราชินีแม็กซิมาแห่งเนเธอร์แลนด์ ทูตพิเศษของเลขาธิการใหญ่สหประชาชาติดูแลด้านการเงินเพื่อการพัฒนาทรงเห็นว่า “ต้องค้ำประกันให้สตรีได้ใช้โอกาสต่างๆเมื่อเข้าร่วมเศรษฐกิจดิจิทัลผ่านการเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งพวกเราต้องมีความคิดริเริ่มใหม่ ผลักดันการปฏิบัตินโยบายและตลาดเพื่อเตรียมความพร้อมให้แก่การพัฒนาการเงินที่ครอบคลุมให้แก่สตรี จากการเป็นทูตพิเศษของเลขาธิการใหญ่สหประชาชาติดูแลด้านการเงินเพื่อการพัฒนา ข้าพเจ้าหวังว่า พวกเราจะสามารถปฏิบัติกระบวนการนี้ต่อไป”
เพื่อเพิ่มทักษะความสามารถและส่งเสริมศักยภาพของสตรี คาดว่า ในปี 2021 เวียดนามจะจัดฟอรั่มระดับสูงอาเซียนเกี่ยวกับบทบาทของสตรีในการฟื้นฟูในทุกด้านอย่างยั่งยืน.