ร่วมมือเพื่อการพัฒนาเป็นพลังขับเคลื่อนต่อไปในความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับสหรัฐ

ในการกล่าวปราศรัยในการสัมมนา ประธานประเทศเวียดนามเจิ่นด่ายกวางได้ชื่นชมว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศได้ประสบความคืบหน้าอย่างรวดเร็ว จริงจังและรอบด้านตามแนวทางความสัมพันธ์หุ้นส่วนในทุกด้านระหว่างเวียดนามกับสหรัฐเมื่อปี 2013 แถลงการณ์เกี่ยวกับวิสัยทัศน์ร่วมกันเนื่องในโอกาสการเยือนสหรัฐครั้งประวัติศาสตร์ของเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามเหงียนฟู้จ่องเมื่อเดือนกรกฎาคม 2015 และแถลงการณ์ร่วมระหว่างเวียดนามกับสหรัฐเนื่องในโอกาสการเยือนเวียดนามของประธานาธิบดีสหรัฐบารัค โอบาม่าเมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2016 ประธานประเทศเจิ่นด่ายกวางได้เผยว่า การที่ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ได้ตอบรับคำเชิญเข้าร่วมการประชุมสุดยอดเอเปก 2017 สะท้อนความสนใจของสหรัฐต่อการขยายความสัมพันธ์ร่วมมือกับเวียดนาม ซึ่งเป็นพลังขับเคลื่อนให้แก่ความสัมพันธ์ทวิภาคีเพื่อให้สองฝ่ายผลักดันการค้าและการลงทุนมากขึ้น “ในด้านการลงทุน ผมขอเชิญชวนให้สถานประกอบการสหรัฐเข้ามาลงทุนในเวียดนามในด้านที่เป็นจุดแข็งของสหรัฐและเวียดนามมีความต้องการ ซึ่งสามารถอำนวยความสะดวกให้สถานประกอบการสหรัฐร่วมลงทุนกับสถานประกอบการเวียดนาม เช่น พลังงาน ปิโตรเลียม โครงสร้างพื้นฐาน การเงิน – ธนาคาร การศึกษา – ฝึกอบรม การท่องเที่ยว เป็นต้น ส่วนความร่วมมือในด้านการค้ายังมีศักยภาพอีกมาก เวียดนามมีความประสงค์จะเพิ่มปริมาณการส่งออกผลิตภัณฑ์การเกษตร สัตว์น้ำ เครื่องเฟอร์นิเจอร์ สิ่งทอเสื้อผ้าสำเร็จรูป อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกและสินค้าอุปโภคบริโภคไปยังตลาดสหรัฐและนำเข้าผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจของเวียดนาม”

ประธานประเทศเจิ่นด่ายกวางได้ยืนยันว่า รัฐเวียดนามให้ความสำคัญต่อโครงการลงทุนและประกอบธุรกิจในเวียดนามของสถานประกอบการสหรัฐ ทางการปกครองทุกระดับของเวียดนามจะอำนวยความสะดวกและปฏิบัติตามคำมั่นเพื่อช่วยให้นักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะนักลงทุนสหรัฐเข้ามาลงทุนและประกอบธุรกิจในเวียดนามอย่างยั่งยืนและประสบความสำเร็จ.