รัฐสภาเสร็จสิ้นการตั้งและตอบกระทู้ถามสมาชิกรัฐบาลเป็นเวลา 3 วัน

สำหรับโครงการหลัก 12 แห่งที่เกิดความสูญเสียเงินทุนในเวลาที่ผ่านมา รองนากยรัฐมนตรีเจืองหว่าบิ่งห์ได้ยืนยันว่า รัฐบาลได้เปิดเผยข้อมูลอย่างชัดเจนว่าไม่ใช้งบประมาณแผ่นดินเพื่อชำระหนี้ แก้ไขปัญหาตามกลไกของตลาดและลงโทษผู้กระทำผิดอย่างเด็ดขาด ส่วนในการแสวงหาตลาดจำหน่ายสินค้าการเกษตร รองนายกรัฐมนตรีเจืองหว่าบิ่งห์เผยว่า ทางการปกครองต้องมีความรับผิดชอบเกี่ยวกับการวางผัง การแสวงหาตลาดจำหน่าย การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการผลิตและการมีคลังเก็บของที่ได้มาตรฐาน เป็นต้น นี่ยังเป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการปฏิรูปโครงสร้างของแรงงาน

ในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง รองนายกรัฐมนตรีเจืองหว่าบิ่งห์ได้ยืนยันว่า ในช่วงปี 2011-2015 รัฐได้จัดสรรเงินลงทุนให้แก่ภาคนี้ร้อยละ 11.5 จากจำนวนเงินทุนทั้งหมดทั่วประเทศ แต่ยังคงมี 26 โครงการไม่เสร็จสิ้น ดังนั้นรัฐบาลจะทำการตรวจสอบโครงการเหล่านี้ ส่วนในด้านสังคมที่เกี่ยวข้องกับนโยบายสำหรับชนกลุ่มน้อย รองนายกรัฐมนตรีเจืองหว่าบิ่งห์เผยว่า ในโครงการแก้ปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืน รัฐบาลได้จัดสรรเงินทุน 18 ล้านล้านด่ง ส่วนโครงการสร้างสรรค์ชนบทใหม่ก็สงวนเงินทุน 193 ล้านล้านด่ง รัฐบาลกำลังเน้นปฏิบัติมาตรการแก้ไขต่างๆเพื่อยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของชนกลุ่มน้อยให้ดีขึ้น  “มาตรการแก้ไขคือ รัฐบาลจะชี้นำการดำเนินโครงการแห่งรัฐคือการแก้ปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืนให้ประสบความสำเร็จ ซึ่งได้มีกำหนดการที่จะจัดสรร 48 ล้านล้านด่งเพื่อลงทุนให้แก่เขตชนกลุ่มน้อย เขตที่ยากจนเป็นพิเศษและพื้นที่ชายฝั่งทะเล ควบคู่กันนั้น นายกรัฐมนตรีได้สั่งให้จัดสรรเงินทุนและอนุมัตินโยบายพิเศษให้แก่เขตชนกลุ่มน้อยระยะปี 2017-2020”

ส่วนในการกล่าวปราศรัยสรุปการตั้งและตอบกระทู้ถามเป็นเวลา 3 วัน นางเหงียนถิกิมเงิน ประธานรัฐสภาได้เผยว่า “การตั้งและตอบกระทูถามได้มีขึ้นในบรรยากาศที่เป็นประชาธิปไตยโดยมีผู้แทน 196 คนได้ตั้งกระทู้ถามและมีการอภิปราย 58 ครั้ง ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า กลุ่มปัญหาที่ผู้แทนรัฐสภาเลือกเพื่อตั้งกระทู้ถามต่างเป็นปัญหาที่ร้อนระอุ และพิสูจน์ให้เห็นถึงความรับผิดชอบของผู้แทนรัฐสภาต่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ส่วนสมาชิกรัฐบาลได้ตอบกระทู้ถามและอธิบายอย่างชัดเจนและเสนอมาตรการแก้ไขอย่างทันการเพื่อปรับปรุงเสถียรภาพของเศรษฐกิจและสังคม”.