|
สมาชิกรัฐสภาอภิปรายร่างกฎหมายนครหลวง |
(VOVworld) – บ่ายวันที่๕เดือนนี้ บรรดาผู้แทนที่เข้าร่วมการประชุมรัฐสภาครั้งที่๔สมัยที่๑๓ได้อภิปรายตามหน่วยถึงร่างกฏหมายภาษีเงินได้ส่วนบุคคลฉบับแก้ไขและเพิ่มเติมและร่างกฏหมายไกล่เกลี่ยในพื้นที่โดยในร่างกฏหมายภาษีเงินได้ส่วนบุคคลฉบับแก้ไขและเพิ่มเติม มีเนื้อหาที่ได้รับความสนใจจากประชามติมากที่สุดคือ การหักลดหย่อนสำหรับบุตรซึ่งตามนั้นกระทรวงการคลังได้วางขั้นตอนเพื่อให้รัฐบาลยื่นเสนอขอรัฐสภาอนุมัติโดยปรับปรุงการจัดเก็บภาษีเงินได้ส่วนบุคคลสำหรับผู้ที่มีรายได้ตั้งแต่๙ล้านด่งขึ้นไปแทน๔ล้านด่งและหักลดหย่อนสำหรับบุตรคนละ๓ล้าน๖แสนด่งแทน๑ล้าน๖แสนด่งซึ่งได้รับการสนับสนุนจากประชาชนแม้ว่ารายรับงบประมาณแผ่นดินจะลดลงก็ตาม สำหรับกฏหมายไกล่เกลี่ยในพื้นที่ มีจุดใหม่ที่สำคัญเมื่อเทียบกับกฏหมายฉบับปัจจุบันคือการรับทราบถึงบทบาทของแนวร่วมปิตุภูมิและองค์กรสมาชิกในการไกล่เกลี่ย ท่านNgô Thị Mịnh ผู้แทนรัฐสภาจังหวัดQuảng Ninhกล่าวถึงมาตรฐานเจ้าหน้าที่ไกล่เกลี่ยว่า“เจ้าหน้าที่ไกล่เกลี่ยมักเป็นผู้ที่ปฏิบัติงานในองค์การมวลชน เช่น แนวร่วมปิตุภูมิ กองเยาวชน สหพันธ์สตรี และกำนันผู้ใหญ่บ้าน ในทางเป็นจริงถือว่าเป็นเรื่องยากในการเลือกเจ้าหน้าที่ไกล่เกลี่ยที่ได้รับความเชื่อถือ มีความสามารถในการโน้มน้าวจูงใจ เป็นแบบอย่างในพื้นที่และได้รับความเคารพนับถือจากทุกคน แต่ควรให้ความสนใจต่อปัจจัยเหล่านี้และถ้ามีความเข้าใจกฏหมายก็ยิ่งดี” ก่อนหน้านั้น เช้าวันเดียวกัน ที่ประชุมรัฐสภาได้อภิปรายร่างกฎหมายนครหลวง โดยได้หยิบยกประเด็นการวางผังเมืองและระเบียบนโยบายด้านการเงินให้แก่นครหลวงฮานอย ขึ้นมาอภิปราย ร่างกฎหมายนครหลวงที่เสนอให้ที่ประชุมรัฐสภาพิจารณาผ่านความเห็นชอบในนัดประชุมครั้งนี้ได้รับการร่างอย่างละเอียดและรอบคอบ โดยมีการสานต่อกฤษฏีกานครหลวง ซึ่งบรรดาสมาชิกรัฐสภาเห็นว่า ร่างกฎหมายนครหลวงควรได้รับการอนุมัติจากรัฐสภาโดยเร็วเพื่อเป็นพื้นฐานทางนิตินัยให้แก่การพัฒนานครหลวงฮานอยในเวลาต่อไปให้เป็นนครหลวงที่ทันสมัยทัดเทียมกับนครหลวงประเทศอื่นๆของโลก
จุดใหม่ของร่างกฏหมายนครหลวงฉบับนี้คือมีการปรับปรุงและเสริมข้อกำหนด ๑๖ ข้อของนโยบายและกลไกพิเศษเพื่อเป็นพื้นฐานทางนิตินัยแต่การพัฒนานครหลวงในอนาคต นายเหงวียนเลิมแถ่ง สมาชิกรัฐสภาจังหวัดหล่างเซินเห็นว่า “ นครหลวงเป็นตัวเมืองพิเศษ ดังนั้นจำต้องมีนโยบายและกลไกบริหารเฉพาะเพื่อเป้าหมายการพัฒนาเป็นตัวเมืองมาตรฐาน รวมทั้งนโยบายด้านการเงินที่เข้มแข็งพอ ดังนั้นผมสนับสุนุนกลไกการเงินเฉพาะสำหรับนครหลวง โดยมีงบประมาณเฉพาะที่แตกต่างกับจังหวัดสังกัดส่วนกลางและมีอำนาจใช้งบประมาณจากการเก็บโดยตรงของนครหลวง ” ./.