รัฐสภาหารือเกี่ยวกับกฏหมายการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นฉบับแก้ไข (Internet)

(VOVworld) – วันที่ 9 พฤศจิกายน ที่ประชุมรัฐสภาครั้งที่ 4 สมัยที่ 13 ได้หารือเกี่ยวกับร่างกฏหมายการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นฉบับแก้ไขซึ่งเป็นปัญหาสำคัญที่ได้รับความสนใจเป็นพิเศษจากประชาชนและได้รับการถ่ายทอดสดผ่านทางสถานีโทรทัศน์และวิทยุ

ร่างกฏหมายการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นฉบับแก้ไขและเพิ่มเติมได้รับการทำประชาพิจารณ์และยื่นเสนอให้รัฐสภาอนุมัติในการประชุมครั้งนี้ นี่เป็นร่างกฏหมายที่มีความเป็นไปได้สูงและมีกฏระเบียบข้อบังคับเข้มงวดพอที่จะจำกัดช่องโหว่ก่อให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชั่น บรรดาผ้แทนได้ย้ำว่า ถ้าอยากทำการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น ก่อนอื่นต้องดำเนินงานอย่างมีประชาธิปไตย เปิดเผยและโปร่งใส ดังนั้น ร่างกฏหมายการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นฉบับแก้ไขฉบับนี้ต้องเน้นแก้ไขและเพิ่มเติมข้อกำหนดเกี่ยวกับการแสดงบัญชีทรัพย์สินและรายได้จากการทำงานและที่อยู่อาศัย ขยายขอบเขตบุคลากรที่ต้องแสดงบัญชีทรัพย์สินและขอบเขตการแสดงบัญชีทรัพย์สิน รายได้ของเจ้าหน้าที่ข้าราชการและสมาชิกพรรค นายบุ่ยแหมงหุ่ง ผู้แทนรัฐสภาจ.บิ่งเฟือกได้แสดงความเห็นต่อการสนับสนุนหน้าที่เป็นผู้ตรวจสอบของประชาชนและสื่อต่างๆในการปฏิบัติกฎหมายนี้ว่าการปฏิบัติในชีวิตจริงได้พิสูจน์ให้เห็นว่า ประชาชนและสื่อเป็นผู้ช่วยที่ดีในการค้นหาและเปิดโปงการทุจริตคอร์รัปชั่นและส่งเสริมให้การปฏิบัติมาตรการป้องกันและปราบปรามการคอร์รัปชั่นมีประสิทธิผล ซึ่งควบคู่กับการส่งเสริมบทบาทของสื่อและประชาชน ก็ต้องมีระเบียบการปกป้องผู้ที่เข้าร่วมกระบวนการป้องกันและปราบปรามการคอร์รัปชั่นและชมเชยผู้ที่มีผลงานดีเด่นในการปฏิบัติ
เนื้อหาสำคัญอีกประการหนึ่งของกฏหมายการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นฉบับแก้ไขครั้งนี้คือ การเปลี่ยนแปลงรูปแบบคณะกรรมการชี้นำส่วนกลางเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นและส่งเสริมบทบาทการตรวจสอบของประชาชนในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น นาย VũXuânTrường ผู้แทนรัฐสภาจังหวัด Nam Định ได้แสดงความเห็นว่า “ผมเห็นด้วยกับร่างเอกสารเกี่ยวกับการอนุญาตให้สำนักงานชี้นำการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นอยู่ภายใต้การบริหารของกรมการเมืองและคณะกรรมการการเมืองภายในทุกสาขา ประเด็นที่ 2 คือ สำนักงานที่บังคับใช้กฏหมายได้แก่ สำนักงานตรวจการแผ่นดิน สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานสอบสวนการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นของกระทรวงรักษาความมั่นคงทั่วไปหรือกระทรวงกลาโหม สถาบันตรวจตราประชาชน ประเด็นสุดท้ายคือ ข้อสรุปของผู้ตรวจการแผ่นดินและผู้ตรวจเงินแผ่นดินในกระบวนการตรวจตราต้องส่งถึงคณะกรรมการชี้นำและสำนักงานที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น”
ตามความเห็นของบรรดาผู้แทนรัฐสภา เนื้อหาที่ได้รับการแก้ไขในกฏหมายการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นครั้งนี้ได้แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของทั้งระบบการเมืองในการขจัดการทุจริตคอร์รัปชั่นเพื่อตอบสนองความปรารถนาของประชาชน./.