รัฐมนตรีต่างประเทศเวียดนามและอเมริกาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน

( VOVworld )-เมื่อบ่ายวันที่ ๗ สิงหาคมที่ผ่านมา ณ กรุงฮานอย นายฝ่าม บิ่นห์ มินห์รองนายกฯและรัฐมนตรีต่างประเทศเวียดนามกับนายจอห์น แคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับผลการเจรจาและตอบคำถามของสื่อมวลชน โดยนายจอห์น แคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐได้ตอบคำถามเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะเสร็จสิ้นข้อตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิกหรือทีพีพีโดยเปิดเผยว่า ได้มีความคืนหน้าแต่ยังมีปัญหาที่ยังคั่งค้างอยู่และวันนี้พวกเราได้หารือถึงปัญหาที่เกี่ยวข้องกับเวียดนาม  ประเทศอื่นๆก็ต้องแก้ไขปัญหาหลายประเด็น ผมหวังว่าทีพีพีจะได้รับการลงนามในปลายปีนี้  สำหรับปัญหาสิทธิมนุษยชน นายจอห์น แคร์รีเปิดเผยว่า สองประเทศได้หารือถึงปัญหานี้เป็นประจำอย่างตรงไปตรงมาตั้งแต่เมื่อเริ่มกระบวนการปรับความสัมพันธ์ให้เป็นปรกติ เวียดนามได้ให้ภาคียานุวัติอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยววกับการต่อต้านการทรมาน มีการแก้ไขและอนุมัติกฎหมายต่างๆเพื่อแปรรัฐธรรมนูญฉบับปี ๒๐๑๓ ให้เป็นรูปธรรมเช่น ประมวลกฎหมายอาญา ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาและปรับปรุงหน่วยงานตุลาการ  สำหรับปัญหาทะเลตะวันออก นายจอห์น แคร์รีได้แสดงความวิตกกังวลของสหรัฐต่อการก่อสร้างและขยายเกาะเทียมเพื่อเป้าหมายทางทหาร เห็นด้วยกับการแก้ไขปัญหาการพิพาทด้วยมาตรการอย่างสันติ มาตรการทางการทูตหรือผ่านศาลโลก  อีกทั้งเห็นว่า การที่เวียดนามเข้าร่วมกองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติเป็นก้าวเดินที่สำคัญเพราะสหประชาชาติกำลังแสวงหาแหล่งบุคลากรให้แก่งานด้านการรักษาสันติภาพ

ส่วนนายฝ่าม บิ่นห์ มินห์ รองนายกฯและรัฐมนตรีต่างประเทศได้ยืนยันว่า นโยบายของเวียดนามล้วนถือมนุษย์เป็นศูนย์กลางในการพัฒนา เวียดนามให้ความสำคัญและผลักดันการปฏิบัติสิทธิมนุษยชน ซึ่งสิ่งที่กำลังทำคือปรับปรุงระบบกฎหมายให้มีความสมบูรณ์เพื่อสิทธิมนุษยชน  เวียดนามกำลังสนทนากับหลายประเทศเกี่ยวกับปัญหาสิทธิมนุษยชนรวมทั้งสหรัฐอเมริกา และพร้อมที่จะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นสิทธิมนุษยชนที่ยังมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันตลอดจนแลกเปลี่ยนประสบการณ์เพื่อมีนโยบายเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนที่มีความสมบูรณ์มากขึ้น   นายฝ่าม บิ่นห์ มินห์เปิดเผยว่า ความร่วมมือด้านการศึกษาคือความร่วมมือที่สำคัญระหว่างสองประเทศ ซึ่งเวียดนามและสหรัฐมีความต้องการเป็นพิเศษ โดยเฉพาะฝ่ายเวียดนามที่มีความต้องการสูงในการผลิตบุคลากร  เวียดนามให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่งต่อโครงการก่อสร้างมหาวิทยาลัย ฟูลไบรท์  รองนายกฯฝ่าม บิ่นห์ มินห์ยังเปิดเผยว่า เวียดนามและสหรัฐอเมริกาได้สถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนทุกด้านตั้งแต่ปี ๒๐๑๓ ซึ่งเวียดนามมีความประสงค์ว่า ความสัมพันธ์นี้จะได้รับการพัฒนาบนพื้นฐานแห่งความไว้วางใจทางการเมืองและขยายการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนระดับสูงของทั้งสองประเทศไปมาเยี่ยมเยือนซึ่งกันและกัน