วันที่ 20ธันวาคม บรรดาผู้นำประเทศกัมพูชา ลาว พม่า ไทยและจีนได้เข้าร่วมพิธีเปิดการประชุมสุดยอดประเทศอนุภูมิภาคแม่น้ำโขงขยาย วงค์หรือGMS ครั้งที่4ภายใต้หัวข้อ มุ่งสู่ทศวรรษใหม่แห่งความสัมพันธ์หุ้นส่วนพัฒนายุทธศาสตร์จีเอมเอส ซึ่งในการนี้นายกฯเวียดนาม Nguyen Tan Dung พร้อม กับผู้นำประเทศต่างๆได้แสดงความพึงพอใจต่อผลงานต่างๆจากกระบวนการปฏิบัติ โครงการร่วมมือในกรอบของยุทธศาสตร์ความร่วมมืออนุภูมิภาคแม่น้ำโขงช่วง ปี2002-2012 โดยเฉพาะความร่วมมือด้านการคมนาคม พลังงาน สารสนเทศ การอำนวยความสะดวกทางการค้าและการลงทุน  การพัฒนาการเกษตร การท่องเที่ยวและสิ่งแวดล้อม ที่ประชุมได้ผ่านความเห็นชอบโครงสร้างยุทธศาสตร์ จีเอ็มเอส ระยะ10ปีตั้งแต่ปี2012-2022 ซึ่งเป็นพื้นฐานและเป็นการกำหนดแนวทางการพัฒนาความร่วมมือในภูมิภาคนี้  โครง สร้างความร่วมมือระยะที่สองตั้งแต่ปี2012-2016ของโครงการสิ่งแวดล้อมหลักกับ ข้อคิดริเริ่มเกี่ยวกับแนวระเบียงเพื่อการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ  วิสัยทัศน์ใหม่และยุทธศาสตร์ร่วมให้แก่โครงการช่วยเหลือด้านการเกษตรช่วงปี2011-2015 ยุทธศาสตร์และแผนการพัฒนาการท่องเที่ยวจีเอ็มเอสปี2011-2015 ในการกล่าวปราศรัย ณ ที่ประชุมท่านNguyen Tan Dung นายกฯ เวียดนามได้ย้ำถึงความจำเป็นที่จะต้องระดมเงินทุนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้น ฐานและเสริมสร้างระเบียบความร่วมมือในอนุภูมิภาคให้มีความสมบูรณ์ ผลักดันความร่วมมือระหว่างฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้องจากส่วนกลางไปจนถึงส่วน ท้องถิ่น ระหว่างรัฐบาลและภาคเอกชนในการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจ ในกรอบการประชุมจีเอ็มเอส4 จะมีการลงนามบันทึกช่วยจำ3ฉบับเกี่ยวกับการประสานปฏิบัติการเพื่อลดผลกระทบ ของHIVต่อชุมชน  ความร่วมมือพัฒนาระบบสารสนเทศในจีเอ็มเอสและการจัดตั้งสมาพันธ์การขนส่งจีเอ็มเอส ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมบรรดาผู้นำประเทศจีเอ็มเอสได้ออกแถลงการณ์ร่วมยืนยันว่า หลังปี2012 ทุกฝ่ายจะมุ่งสู่ทศวรรษใหม่ด้านความสัมพันธ์หุ้นส่วนพัฒนายุทธศาสตร์จีเอ็มเอส ยืนยันถึงความตั้งใจของทุกฝ่ายในการกระชับความร่วมมือ ฝ่าฟันอุปสรรคและการท้าทายเพื่อพัฒนาภูมิภาคแม่น้ำโขงที่ผสมผสาน เจริญรุ่งเรืองและพัฒนาอย่างยั่งยืน  ตลอดจนได้ตกลงกันในการจัดประชุมจีเอ็มเอสครั้งที่การ5 ณ ประเทศไทยในปี2014

นายกฯเวียดนามและรองนายกฯจีน - ภาพจากสำนักข่าวเวียดนาม

         ส่วนเมื่อค่ำวันที่๑๙เดือนนี้ ท่าน Nguyễn Tấn Dũng ได้ให้การต้อนรับท่าน ใต้ปี๋นกั๋ว  รองนายกรัฐมนตรีจีนโดยทั้งสองท่านได้ ชื่นชมความคืบหน้าของความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในเวลาที่ผ่านมาซึ่ง ท่านNguyễn Tấn Dũngกล่าวว่า จากการให้ความสำคัญต่อสัมพันธไมตรีที่มีมาช้านาน ทั้งสองประเทศควรประสานเพื่อปฏิบัติข้อตกลงร่วมมือฉบับต่างๆที่ได้บรรลุโดย เฉพาะข้อตกลงเกี่ยวกับหลักการพื้นฐานที่ชี้นำการแก้ไขปัญหาในทะเล รวมทั้งการแก้ไขการพิพาทในทะเลอย่างสันติบนพื้นฐานของการเคารพกฏหมายสากล อนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฏหมายทางทะเลปี๑๙๘๒ ปฏิบัติแถลงการณ์ร่วมเกี่ยวกับการปฏิบัติต่อกันของทุกฝ่ายในทะเลตะวันออก หรือDOC และมุ่งสู่การเจรจาเกี่ยวกับหลักปฏิบัติต่อกันในทะเลตะวันออกหรือCOC  ทั้งสองฝ่ายควรส่งเสริมบทบาทของคณะกรรมการชี้นำความร่วมมือทวิภาคีในการ ปฏิบัติความเข้าใจร่วมกันที่สำคัญของผู้นำของทั้งสองประเทศ รวมทั้งแผนการความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าเวียดนาม จีนในช่วงปี๒๐๑๒ถึงปี๒๐๑๖ ขยายสัมพันธไมตรีและความร่วมมือในทุกด้านระหว่างสองประเทศ ส่วนท่านใต้ปี๋นกั๋วได้ยืนยันว่า ผู้นำจีนให้ความสำคัญต่อสัมพันธไมตรีและความร่วมมือกับเวียดนาม จะร่วมกับเวียดนามหารือเพื่อแก้ไขปัญหาที่ยังคั่งค้างอยู่ระหว่างสองประเทศ รวมทั้งปัญหาทะเลอย่างสมเหตุสมผล ผลักดันความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้พัฒนาอย่างมีเสถียรภาพและโปร่งใส จีนมีความประสงค์ที่จะร่วมกับอาเซียนปฏิบัติDOCและทำการเจรจาเกี่ยวกับCOC ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันว่า จะปฏิบัติข้อตกลงฉบับต่างๆที่ได้บรรลุอย่างมีประสิทธิภาพ มีส่วนร่วมส่งเสริมความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์และความร่วมมือในทุกด้าน ระหว่างสองประเทศให้พัฒนาตามส่วนลึก มีส่วนร่วมต่อสันติภาพ เสถียรภาพ มิตรภาพและความร่วมมือในภูมิภา./.