ประธานประเทศเวียดนามเจรจากับนาย ฟรองซัว อองลองค์ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส

(VOVworld) – ตามคำเชิญของประธานประเทศเวียดนามเจิ่นด่ายกวาง นาย ฟรองซัว อองลองค์ ประธานาธิบดีฝรั่งเศสได้เดินทางมาเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการในระหว่างวันที่ 5-7 กันยายน โดยในเช้าวันที่ 6 กันยายน ณ กรุงฮานอย หลังพิธีต้อนรับ ผู้นำทั้งสองท่านได้มีการเจรจากันโดยยืนยันความตั้งใจร่วมกันคือ นำความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เวียดนาม – ฝรั่งเศสเข้าสู่วิสัยทัศน์แห่งความร่วมมือในระยะยาว ตอบสนองผลประโยชน์และความสนใจร่วมกันของทั้งสองประเทศ ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องกันที่จะเพิ่มการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนทุกระดับ ส่งเสริมบทบาทของกลไกให้คำปรึกษาและชี้นำความร่วมมือทวิภาคีในด้านการเมือง เศรษฐกิจ กลาโหม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วัฒนธรรม การศึกษาและฝึกอบรม ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องกันผลักดันความร่วมมือด้านกลาโหม โดยเฉพาะความร่วมมือในการติดตั้งอุปกรณ์ การเยี่ยมเยือนระหว่างกองทัพเรือและร่วมมือแก้ไขปัญหาความมั่นคงทั้งรูปแบบเก่าและใหม่ ทั้งสองประเทศจะขยายความร่วมมือในการรับมือกับความท้าทายทั่วโลก โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
ประธานาธิบดีฝรั่งเศสได้ยืนยันถึงคำมั่นของฝรั่งเศสในการธำรงการจัดสรรเงินโอดีเอให้แก่เวียดนาม ทั้งสองฝ่ายได้ย้ำว่า จะสร้างบรรยากาศที่อำนวยความสะดวกให้แก่สถานประกอบการทั้งสองประเทศต่อไปเพื่อร่วมมือ ลงทุน ประกอบธุรกิจและมุ่งสู่การสร้างสรรค์ความสัมพันธ์หุ้นส่วนบนพื้นฐานที่ทั้งสองฝ่ายมีประโยชน์ร่วมกัน เวียดนามเชิญฝรั่งเศสเป็นแขกรับเชิญเข้าร่วมงานนิทรรศการนานาชาติอุตสาหกรรมอาหารเวียดนาม 2017 หรือ Vietnam Foodexpo  ผู้นำทั้งสองท่านยังเห็นพ้องกันที่จะร่วมมืออย่างใกล้ชิดเพื่อค้ำประกันให้แก่ความสำเร็จของการประชุมร่วมมือระหว่างท้องถิ่นต่างๆของเวียดนามกับฝรั่งเศสครั้งที่ 10 ที่จะมีขึ้น ณ นครเกิ่นเทอในระหว่างวันที่ 14-16 กันยายน
เวียดนามและฝรั่งเศสจะผลักดันการประสานงานในฟอรั่มพหุภาคี เช่น สหประชาชาติ อาเซียน – อียู อาเซมและประชาคมประเทศที่ใช้ภาษาฝรั่งเศส สนับสนุนกันต่อไปเพื่อขยายความสัมพันธ์ระหว่างฝรั่งเศสกับเอเชีย – แปซิฟิก ขยายความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับสหภาพยุโรป ผู้นำทั้งสองท่านยืนยันถึงบทบาทสำคัญในการธำรงสันติภาพ เสถียรภาพ ผลักดันความร่วมมือในภูมิภาคและโลก ยืนยันอีกครั้งถึงคำมั่นในการรักษาเสรีภาพในการเดินเรือและการบิน ย้ำถึงการแก้ไขปัญหาการพิพาทในทะเลตะวันออกด้วยสันติวิธี ประกอบด้วยกระบวนการทางการทูตและทางนิตินัยตามกฎหมายสากล รวมทั้งอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982
หลังการเจรจา ประธานประเทศเจิ่นด่ายกวางและประธานาธิบดีฝรั่งเศส ฟรองซัว อองลองค์ ได้เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามแลกเปลี่ยนเอกสารและข้อตกลงร่วมมือระหว่างสองประเทศในด้านตุลาการ การเกษตร การสอนภาษาฝรั่งเศส การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ การส่งมอบเครื่องบินโดยสารแอร์บัส การสื่อสารโทรคมนาคม ดาวเทียมและการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน เป็นต้น โอกาสนี้ ผู้นำทั้งสองท่านได้จัดการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน

นายกรัฐมนตรีเวียดนามเหงียนซวนฟุ๊กพบปะกับประธานาธิบดีฝรั่งเศสฟรองซัว อองลองค์ (Photo VGP)

ในเช้าวันเดียวกัน นายกรัฐมนตรีเวียดนามเหงียนซวนฟุ๊กได้พบปะกับประธานาธิบดีฝรั่งเศสฟรองซัว อองลองค์ โดยแสดงความยินดีต่อผลการเจรจาระหว่างประธานประเทศเจิ่นด่ายกวางกับประธานาธิบดีฟรองซัว อองลองค์ ผลสำเร็จที่ได้บรรลุจากความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างสองประเทศในเวลาที่ผ่านมา พร้อมทั้งยืนยันว่า รัฐบาลเวียดนามจะทำอย่างสุดความสามารถเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ร่วมมือในหลายด้านระหว่างสองประเทศให้เข้าสู่ส่วนลึกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะความร่วมมือในด้านเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน พยายามเพิ่มมูลค่าการค้าต่างตอบแทนให้สมกับศักยภาพที่มีอยู่โดยเมื่อปี 2015 บรรลุเพียง 4.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น ส่วนประธานาธิบดีฝรั่งเศสได้ยืนยันว่า ฝรั่งเศสให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อการขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับเวียดนาม พร้อมทั้งมีความประสงค์ที่จะขยายความร่วมมือในด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การถ่ายทอดเทคโนโลยี การศึกษาและฝึกอบรม การเกษตรและวัฒนธรรม ฝรั่งเศสจะให้ความช่วยเหลือเวียดนามในด้านที่เวียดนามมีความต้องการสูง รวมทั้งการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ปัญหาน้ำทะเลหนุนและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม.