ก่อนหน้านั้น บ่ายวันที่๒๒เดือนนี้ ณ กรุงโซล ท่านเหงวียนซิงหุ่งได้มีการเจรจากับท่านกางจางฮี ประธานรัฐสภาสาธารณรัฐเกาหลีโดยทั้งสองฝ่ายต่างยืนยันถึงความพยายามที่จะผลักดันความสัมพันธ์ร่วมมือหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างสองประเทศให้พัฒนาขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่ เพื่อสนับสนุนการพัฒนา สันติภาพ เสถียรภาพและผลประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศและเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ยุทธศาสตร์เวียดนามสาธารณรัฐเกาหลี ท่านเหงวียนซิงหุ่งแสดงความประสงค์ว่า รัฐบาลและรัฐสภาทั้งสองประเทศจะผลักดันความร่วมมือในด้านต่างๆ โดยเฉพาะ  ความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจ แรงงาน การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม การศึกษาฝึกบอรม และการท่องเที่ยว  การเพิ่มมูลค่าการค้าต่างตอบแทนให้สูงถึง๓หมื่นล้านเหรียญสหรัฐภายในปี๒๐๑๕และอำนวยความสะดวกให้แก่นักธุรกิจของแต่ละประเทศ ประธานรัฐสภาทั้งสองท่านยังเห็นพ้องกันว่า ในเวลาที่จะถึง จะขยายการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนระดับสูง กลุ่มสส.มิตรภาพและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านตุลาการ การตรวจสอบและปัญหาที่เกี่ยวข้อง ธำรงความร่วมมือและการประสานงานอย่างแน่นแฟ้นในฟอรั่มรัฐสภาภูมิภาคและโลกบนเจตนารมณ์ให้การสนับสนุนซึ่งกันและกัน ประธานเหงวียนซิงหุ่งยืนยันว่า รัฐสภาเวียดนามพร้อมที่จะร่วมมือกับรัฐสภาสาธารณรัฐเกาหลีในการผลักดันและตรวจสอบการปฏิบัติข้อตกลงระหว่างรัฐบาลของทั้งสองประเทศเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพแก่ทั้งสองฝ่าย ประธานหงวียนซิงหุ่งกล่าวว่า“ผมและท่านกางจางฮีต่างมีความรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เริ่มต้นให้แก่ปีแรกของความร่วมมือใน๒๐ปีที่จะถึง โดยทั้งสองฝ่ายจะส่งเสริมให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศพัฒนาให้สมกับการเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสร์ พวกเราจะผลักดันความร่วมมือในทุกด้านในขอบเขตที่ยิ่งใหญ่ มีคุณภาพสูง และมีความลึกซึ้งยิ่งขึ้นในเวลาที่จะถึง ใน๒๐ปีที่ผ่านมา ความร่วมมือระหว่างสองฝ่ายได้ช่วยให้ทั้งสองประเทศหลุดพ้นจากการเป็นประเทศที่ยากจน ส่วนความร่วมมือในอีก๒๐ปีที่จะถึงจะช่วยให้ทั้งสองประเทศพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัย ก้าวเข้าสู่การเป็นประเทศที่พัฒนา นอกจากนี้ ทั้งสองประเทศยังจะให้การสนับสนุนกันในด้านการค้า การสนทนาและการทูตบนเวทีโลกอีกด้วย”   หลังการเจรจา ประธานรัฐสภาทั้งสองประเทศได้ลงนามในข้อตกลงเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างรัฐสภาของทั้งสองประเทศและเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามข้อตกลงเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างสำนักรัฐสภาเวียดนามกับคณะเลขาธิการรัฐสภาสาธารณรัฐเกาหลีซึ่งเป็นพื้นฐานทางนิตินัยที่สำคัญเพื่อผลักดันความสัมพันธ์ร่วมมือระหว่างรัฐสภาของทั้งสองประเทศ./.