ดร. หวูเตี๊ยนหลก ประธานหอการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนาม |
ในฟอรั่ม บรรดาผู้แทนได้เน้นประเมินสถานการณ์และเสนอมาตรการต่างๆ เช่น โครงสร้างพื้นฐานและพลังงาน ตลาดเงินทุนและธนาคาร การศึกษาและฝึกอบรม ทรัพยากรมนุษย์ การเกษตร การลงทุนและการท่องเที่ยว เป็นต้น โดยสมาพันธ์สถานประกอบการยุโรปมีความประสงค์ว่า รัฐบาลจะผลักดันกระบวนการปรับลดเงื่อนไขการประกอบธุรกิจที่ไม่จำเป็น ส่วนสมาพันธ์สถานประกอบการสาธารณรัฐเกาหลีให้ความสนใจถึงข้อกำหนดกฎหมายที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนและประกอบธุรกิจ นอกจากนั้น กลุ่มปฏิบัติงานของสหภาพฟอรั่มสถานประกอบการเวียดนามหรือวีบีเอฟ กระทรวงและหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องได้หารือ รวบรวมความคิดเห็นในด้านต่างๆที่สถานประกอบการให้ความสนใจ
นาย จิ่งดิ่งห์หยุง รองนายกรัฐมนตรี ได้ย้ำว่า ขณะนี้ รัฐบาลเวียดนามกำลังยืนหยัดปฏิบัติกลุ่มมาตรการใหญ่ๆ “1คือการรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค การเมืองและสังคม 2 คือเน้นปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจควบคู่กับการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการขยายตัวอย่างเหมาะสม 3ให้ความสนใจพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานเพื่อยกระดับความสามารถและขีดความสามารถในการแข่งขันของเศรษฐกิจเวียดนาม 4ผลักดันการพัฒนาแหล่งบุคลากร ซึ่งถือเป็นปัจจัยชี้ขาดต่อการพัฒนาและการขยายตัวอย่างยั่งยืนของเวียดนาม 5 เวียดนามเน้นปรับปรุงกลไกตามแนวทางสร้างบรรยากาศที่โปร่งใสและมีขีดความสามารถในการแข่งขันมากขึ้นเพื่อระดมแหล่งพลังต่างๆทั้งภายในและต่างประเทศให้แก่การลงทุนพัฒนา 6พัฒนาระบบนิเวศ เปลี่ยนแปลงใหม่อย่างมีความคิดสร้างสรรค์ ถือสถานประกอบการเป็นศูนย์กลาง 7 ปฏิบัติความสัมพันธ์ต่างประเทศหลายรูปแบบหลายฝ่ายและผสมผสานเข้ากับกระแสภูมิภาคและโลกที่กว้างลึกมากขึ้น”
รองนายกรัฐมนตรี จิ่งดิ่งห์หยุง ยืนยันว่า สถานประกอบการคือพลังขับเคลื่อนให้แก่การขยายตัว เป็นเจ้าของและกองกำลังทำให้เป้าหมายของรัฐบาลกลายเป็นความจริง ซึ่งบนพื้นฐานนั้น รองนายกรัฐมนตรีได้ย้ำถึงความรับผิดชอบของสถานประกอบการใน 3 ด้านคือเศรษฐกิจ กฎหมายและจริยธรรม.