นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุก กล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม |
ในการประชุมครั้งนี้ บรรดาผู้เชี่ยวชาญทั้งภายในและต่างประเทศได้ทำการวิเคราะห์เกี่ยวกับสถานการณ์และอุปสรรคในการเพิ่มผลผลิตในเวียดนาม เสนอมาตรการที่เป็นรูปธรรมเพื่อผลักดันการเพิ่มผลผลิต ซึ่งเป็น1ในมาตรการผลักดันการพัฒนาของเวียดนามในระยะยาว ฟันฝ่ากับดักรายได้ปานกลางและพัฒนาให้ทัดเทียมกับเศรษฐกิจที่พัฒนาในขณะที่ปัจจัยต่างๆที่มีบทบาทในการผลักดันการขยายตัว เช่น แรงงาน ทรัพยากรธรรมชาติได้ส่งเสริมประสิทธิภาพในระยะแรกของการพัฒนา
โดยที่ประชุมเน้นหารือเกี่ยวกับ2หัวข้อหลักคือการผลักดันการเพิ่มผลผลิต-แนวโน้มของโลกและความท้าทายในเวียดนาม”และ “การเพิ่มผลผลิตเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนของเวียดนาม”
ในการกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม นาย เหงวียนซวนฟุก นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้ยืนยันว่า “การเพิ่มผลผลิตเป็นหน้าที่ที่ได้รับความสนใจจากรัฐบาลผ่านการผลักดันการลงทุนด้านวิทยาศาสตร์ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย การเพิ่มค่าใช้จ่ายให้แก่การวิจัยและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การเชื่อมโยง การปรับปรุงกฎหมาย การเพิ่มทักษะความสามารถในการบริหารของรัฐ การปรับปรุงบรรยากาศการประกอบธุรกิจ ส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงใหม่และความคิดสร้างสรรค์ของประชาชน สถานประกอบการ ใช้ประโยชน์จากการปฏิวัติอุตสาหกรรม4.0เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจดิจิตอล อุตสาหกรรมอัจฉริยะเพื่อมุ่งสู่การเพิ่มผลผลิต บนพื้นฐานนี้ เวียดนามจะมีโอกาสฟันฝ่ากับดักรายได้ปานกลาง”
ส่วนนาย ออสแมน ดิออส ผู้อำนวยการธนาคารโลกประจำเวียดนาม ได้ชี้ชัดถึง4ปัจจัยที่ช่วยให้เวียดนามเพิ่มผลผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการในการพัฒนาอย่างยั่งยืน เช่น สร้างเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค เสริมสร้างกลไก ผลักดันการลงทุนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ลงทุนในการพัฒนาแหล่งบุคลากรเพื่อเพิ่มผลผลิตของแรงงาน
นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุก ได้รับรองข้อเสนอและมาตรการต่างๆที่ได้รับการเสนอในฟอรั่ม พร้อมทั้ง ย้ำว่า เวียดนามต้องการความช่วยเหลือและการทาบทามจากหุ้นส่วนต่างๆ ชมรมสถานประกอบการ ผู้เชี่ยวชาญทั้งภายในและต่างประเทศเพื่อแสวงหามาตรการและนโยบายที่เหมาะสมในสภาวการณ์ที่เวียดนามนับวันผสมผสานเข้ากับกระแสโลก.