นาย โตเลิม เลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศ โตเลิม เจรจากับนายกรัฐมนตรีจีน หลี่เฉียง (VNA) |
เมื่อค่ำวันที่ 12 ตุลาคม ณ สำนักงานใหญ่ของคณะกรรมการกลางพรรคในกรุงฮานอย นาย โตเลิม เลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศ โตเลิม ได้พบปะกับนายกรัฐมนตรี หลี่เฉียง โดยยืนยันว่า การเยือนเวียดนามครั้งแรกของนาย หลี่เฉียง ในฐานะนายกรัฐมนตรีจีนมีความหมายสำคัญ นำความสัมพันธ์ระหว่างสองพรรคและสองรัฐพัฒนาเข้าสู่ส่วนลึก จริงจังและรอบด้าน อีกทั้ง ย้ำว่า เวียดนามให้ความสำคัญต่อการพัฒนาความสัมพันธ์กับจีน ซึ่งถือเป็นเนื้อหาที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆในนโยบายการต่างประเทศ
ส่วนนายกรัฐมนตรี หลี่เฉียง ย้ำว่า จีนถือการพัฒนาความสัมพันธ์กับเวียดนามเป็นแนวทางที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆในนโยบายการทูตกับประเทศเพื่อนบ้าน พรรคและรัฐบาลจีนยึดหมั้นสนับสนุนภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ การพัฒนาและการสร้างสรรค์สังคมนิยมของเวียดนาม
ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะส่งเสริมความร่วมมือในด้านการกลาโหม ความมั่นคง การต่างประเทศ และรับมือความท้าทายด้านความมั่นคงแบบดั้งเดิม อีกทั้ง ส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้า ธำรงการค้าชายแดนที่เป็นไปอย่างราบรื่น และปฏิบัติรูปแบบจุดผ่านแดนอัจฉริยะ ส่งเสริมการเชื่อมโยงระหว่างกรอบ “2ระเบียง 1แถบ” และโครงการความคิดริเริ่ม “ 1 แถบ 1 เส้นทาง” โดยให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อการส่งเสริมความร่วมมือเชื่อมโยงทางรถไฟ เลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศ โตเลิม เผยว่า พร้อมอำนวยความสะดวกเพื่อให้สถานประกอบการจีนเดินทางมาเวียดนามเพื่อลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ส่วนนายกรัฐมนตรี หลี่เฉียง ย้ำว่า จีนจะผลักดันการเปิดตลาดสำหรับสินค้าเกษตรของเวียดนาม สนับสนุนเวียดนามเปิดสำนักงานส่งเสริมการค้าในจีน ทั้งสองฝ่ายยังเห็นพ้องที่จะขยายความร่วมมือในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ห่วงโซ่อุปทานการผลิต การพัฒนาสีเขียวและการเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัล
เพื่อมุ่งสู่กาณฉลองครบรอบ 75 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตภายในปี 2025 ผู้นำทั้งสองประเทศได้เห็นพ้องที่จะประสานงานเป็นอย่างดีเพื่อจัดกิจกรรมต่างๆใน “ปีแห่งการแลกเปลี่ยนระดับประชาชนเวียดนาม-จีน” พยายามเพื่อนำความสัมพันธ์ทวิภาคีเข้าสู่ระยะการพัฒนาใหม่
สำหรับปัญหาทางทะเล ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องเกี่ยวกับความสำคัญของการธำรงสันติภาพและเสถียรภาพในทะเลตะวันออก เลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศ โตเลิม เสนอว่า ทั้งสองฝ่ายปฏิบัติตามความเข้าใจร่วมระดับสูงอย่างเคร่งครัด แสวงหาวิธีการและมาตรการที่มีประสิทธิภาพเพื่อควบคุมและแก้ไขความขัดแย้งให้ดีขึ้น ส่งเสริมความร่วมมือให้สอดคล้องกับระดับความสัมพันธ์ทวิภาคีบนพื้นฐานของกฎหมายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลหรือ UNCLOS ปี 1982 .