ท่าน เหงียนฟู้จ่อง เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามกล่าวปราศรัยในพิธี |
โดยมีผู้นำพรรค รัฐและรัฐสภาเวียดนาม ท่าน พันคำ วิพาวัน สมาชิกคณะเลขาธิการกลางพรรคประชาชนปฏิวัติลาวและรองประธานประเทศลาว นาย ทองสะหวัน พหรมวิหาร เอกอัครราชทูตลาวประจำเวียดนาม ผู้บริหารกระทรวง หน่วยงานและท้องถิ่นต่างๆเข้าร่วม
ในการนี้ บรรดาผู้แทนได้ทบทวนเกียรติประวัติแห่งความสัมพันธ์พิเศษที่ซื่อสัตย์ระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศที่ประธานโฮจิมินห์และประธาน ไกสอน พมวิหานได้ทำนุบำรุง ทั้งสองประเทศได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อวันที่5กันยายนปี1962 ซึ่งเป็นเหตุการณ์แห่งประวัติศาสตร์ที่เปิดระยะใหม่ให้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ ในกระบวนการต่อสู้เพื่อช่วงชิงเอกราชในอดีต เวียดนามและลาวได้อยู่เคียงบ่าเคียงไหล่และช่วยเหลือจุนเจือกันบนเจตนารมรณ์แห่งความโปร่งใส ให้ความช่วยเหลือและมีความไว้วางใจกัน เมื่อวันที่18กรกฎาคมปี1977 ทั้งสองประเทศได้ลงนามสนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือ ซึ่งสร้างพื้นฐานทางนิตินัยเพื่อกระชับความสัมพันธ์มิตรภาพและความสามัคคีพิเศษระหว่างสองประเทศและเป็นพื้นฐานเพื่อขยายความสัมพันธ์ร่วมมือในทุกด้านระหว่างสองพรรค สองรัฐและประชาชนทั้งสองประเทศในยุคใหม่ ในการกล่าวปราศรัยในพิธี ท่าน เหงียนฟู้จ่อง เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้เผยว่า
“เมื่อหวนมองประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในตลอด55ปีที่ผ่านมา พวกเรามีความภาคภูมิใจเกี่ยวกับกระบวนการสร้างสรรค์และพัฒนาของความสัมพันธ์พิเศษนี้ นี่เป็นความสัมพันธ์ที่พัฒนาอย่างยั่งยืน โดยได้รับการยกระดับจากความสัมพันธ์ใกล้ชิดที่มีมาช้านานให้เป็นความสัมพันธ์พิเศษ ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงความปรารถนาของประชาชนทั้งสองประเทศคือ สามัคคีเพื่อต่อต้านศัตรูร่วมกัน สร้างสรรค์ความสัมพันธ์ร่วมมือมิตรภาพเพื่อผลประโยชน์ของทั้งสองประเทศ นี่เป็นความสัมพันธ์ร่วมมือที่ยั่งยืนในระยะต่างๆมีส่วนร่วมต่อผลสำเร็จของแต่ละประเทศในภารกิจการต่อสู้เพื่อช่วงชิงเอกราชในอดีตและภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่และการพัฒนาประเทศในปัจจุบัน”
ท่านเลขาธิการใหญ่พรรคฯเวียดนามได้ย้ำว่า ในระยะแห่งการพัฒนาในปัจจุบัน การผลักดันความสัมพันธ์พิเศษและความร่วมมือในทุกด้านระหว่างสองประเทศไม่เพียงแต่เป็นความต้องการในการพัฒนาเท่านั้นหากยังเป็นความปรารถนาของประชาชน เป็นความรับผิดชอบของผู้นำทั้งสองประเทศและเป็นปัจจัยเพื่อค้ำประกันการปฏิบัติภารกิจการสร้างสรรค์ ปกป้องและพัฒนาอย่างยั่งยืนและการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกของแต่ละประเทศให้ประสบความสำเร็จ
ส่วนท่าน พันคำ วิพาวัน สมาชิกคณะเลขาธิการกลางพรรคประชาชนปฏิวัติลาวและรองประธานประเทศลาวได้ยืนยันว่า พรรค รัฐและประชาชนลาวจะทำอย่างสุดความสามารถเพื่อเสริมสร้างและพัฒนาความสัมพันธ์มิตรภาพสามัคคีพิเศษเวียดนาม-ลาว แม้สถานการณ์มีความผันผวนแต่ไมตรีจิตมิตรภาพระหว่างสองประชาชาติจะยังคงมีความซื่อสัตย์ โปร่งใสและใกล้ชิดอยู่เสมอ ความสัมพันธ์มิตรภาพพิเศษจะได้รับการส่งเสริมและสานต่อจากรุ่นสู่รุ่น ความสัมพันธ์ร่วมมือระหว่างสองพรรคและสองรัฐจะมีส่วนร่วมต่อภารกิจการเสริมสร้างสันติภาพ มิตรภาพ ความร่วมมือและการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกเพื่อสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองของประชาชาติ.