ที่ประเทศอิตาลี มีผู้เสียชีวิต 175 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตในประเทศนี้ขึ้นเป็น 1,440 ราย ส่วนผู้ติดเชื้อรายใหม่ได้เพิ่มขึ้นเกือบ 3,500 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วประเทศขึ้นกว่า 21,100 ราย ในขณะเดียวกันประเทศสเปนได้กลายเป็นจุดศูนย์กลางการแพร่ระบาดแห่งที่สองในยุโรปโดยมีผู้ติดเชื้อเกือบ 6,400 ราย  ฝรั่งเศสมีผู้ติดเชื้อ 4,500 รายและมีผู้เสียชีวิต 91 ราย ส่วนสโลวาเกียพบผู้เสียชีวิตรายแรกในวันที่ 14 ที่ผ่านมา ที่ประเทศอังฤษ ในวันที่ 14 มีนาคม พบผู้เสียชีวิตมากที่สุดนับตั้งแต่ที่โรคโควิด -19 ได้แพร่ระบาดในอังกฤษ คือ 10 ราย และพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 350 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มขึ้นเป็น1,140 รายและเสียชีวิต 21 ราย

ที่ประเทศอิหร่าน มีผู้เสียชิวีตอีก 97 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมในประเทศนี้ขึ้นเป็น 611 ราย  ที่ประเทศสหรัฐ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,200 ราย และมีผู้เสียชีวิต 57 ราย ที่ประเทศญี่ปุ่น มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 64 ราย ซึ่งเป็นตัวเลขสูงที่สุดนับตั้งแต่ที่โรคโควิด -19 ได้แพร่ระบาดในประเทศนี้ ส่วนที่ประเทศจีนและสาธารณรัฐเกาหลี ผู้ติดเชื้อรายใหม่ได้ลดลง โดยที่จีนคือ 20 รายและที่สาธารณรัฐเกาหลีคือ 76 ราย

แต่สิ่งที่น่าจับตาตอนนี้คือการแพร่ระบาดในแอฟริกามีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยหลายประเทศและดินแดนในภูมิภาคนี้ได้พบผู้ติดเชื้อรายแรก ทำให้ยอดจำนวนประเทศที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ในแอฟริกาขึ้นเป็น 19 ประเทศ  ในขณะที่มีผู้นำประเทศและนักการเมืองหลายประเทศได้ติดเชื้อโรคโควิด – 19 เช่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมอินโดนีเซีย รองประธานาธิบดีอิหร่าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมสเปน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมฝรั่งเศส หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยอิตาลี ภรรยาของนายกรัฐมนตรีแคนาดาและภรรยาของนายกรัฐมนตรีสเปน ส่วนในวันที่ 14 มีนาคม ทำเนียบขาวได้แจ้งว่า ผลการตรวจหาเชื้อไวรัส SARS – CoV – 2 ของประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นลบ.

กลุ่มผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุเวียดนามประจำญี่ปุ่น สหรัฐ ฝรั่งเศส สาธารณรัฐเช็กและอียิปต์