|
ท่านTrương Tấn Sang ประธานแห่งรัฐเวียดนามได้ให้การต้อนรับประธานวุฒิสภาKhyn Aung Muint(Photo:Internet ) |
(VOVworld) – ตามคำเชิญของท่านNguyễn Sinh Hùng ประธานรัฐสภาเวียดนาม คณะผู้แทนวุฒิสภาพม่านำโดยนายKhyn Aung Muint ประธานวุฒิสภาได้เดินทางถึงกรุงฮานอย เพื่อเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการในระหว่างวันที่๒๐ถึงวันที่๒๔เดือนนี้ โดยเช้าวันที่๒๒เดือนนี้ พิธีต้อนรับประธานวุฒิสภาKhyn Aung Muint กับคณะได้รับการจัดขึ้นตามรัฐพิธี ที่สถานรับรองแขกเมือง ภายหลังพิธีต้อนรับ ท่านNguyễn Sinh Hùngได้มีการเจรจากับประธานวุฒิสภา Khyn Aung Muintโดยยืนยันว่า เวียดนามให้ความสำคัญต่อสัมพันธไมตรีที่มีมาช้านานและความร่วมมือในหลายด้านกับพม่า เพื่อกระชับสัมพันธไมตรีและความร่วมมือระหว่างรัฐสภาของทั้งสองประเทศ ผู้นำทั้งสองท่านได้เห็นพ้องกันว่า ทั้งสองฝ่ายควรดำรงการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนทุกระดับเพื่อเรียนรู้ประสบการณ์ด้านนิติบัญญัติ ขยายการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างรัฐสภาและสส.ของทั้งสองประเทศเพื่อขยายความเข้าใจกัน และเห็นพ้องกันว่า จะจัดตั้งกลุ่มสส มิตรภาพเวียดนาม พม่า พม่า เวียดนาม โดยเร็ว ท่านNguyễn Sinh Hùng ได้เสนอให้ทั้งสองฝ่ายอำนวยความสะดวกและให้ความช่วยเหลือนักธุรกิจของทั้งสองประเทศในการลงทุนและประกอบธุรกิจ ให้ความร่วมมือและสนับสนุนกันในฟอรั่มพหุภาคีเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศ เช้าวันเดียวกัน ท่านTrương Tấn Sang ประธานแห่งรัฐเวียดนามได้ให้การต้อนรับประธานวุฒิสภาKhyn Aung Muint โดยแสดงความประสงค์ว่า รัฐสภาของทั้งสองประเทศจะร่วมมือกันอย่างแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และจะจัดตั้งกลุ่มสส.มิตรภาพโดยเร็วเพื่อขยายสัมพันธไมตรีและความร่วมมือ และเห็นว่า กระทรวงและหน่วยงานต่างๆของทั้งสองประเทศควรวางมาตรการที่เป็นรูปธรรมเพื่อผลักดันความร่วมมือทางเศรษฐกิจ และจัดตั้งช่องทางสื่อสารโดยตรงเพื่อจัดสรรข้อมูลข่าวสารด้านกฏหมาย นโยบาย การค้าและการลงทุน และแสดงความประสงค์ว่า จะผลักดันความร่วมมือในด้านอื่นๆ เช่นวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว ขยายความร่วมมือในฟอรั่มภูมิภาคและโลกพร้อมทั้งแสดงความเชื่อมั่นว่า พม่าจะปฏิบัติหน้าที่ของประธานอาเซียนในปี๒๐๑๔ให้เป็นผลสำเร็จและเวียดนามจะให้การสนับสนุนพม่าในการพัฒนาประเทศอย่างเต็มที่ ประธานวุฒิสภาKhyn Aung Muint ได้ชื่นชมการเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆอย่างรวดเร็วของเวียดนามในเวลที่ผ่านมาและแสดงความเชื่อมั่นว่า เวียดนามจะประสบความสำเร็จในการรักษาอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจและสวัสดิการสังคม ./.