|
นาย วลาดีมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย |
(VOVWorld)-วันที่๑๘มีนาคม ณ พระราชวังเครมลิน นาย วลาดีมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียได้ยืนยันว่า การทำประชาพิจารณ์เกี่ยวกับการขอขึ้นตรงกับรัสเซียของไครเมียสอดคล้องกับหลักการประชาธิปไตย ตั้งแต่บัดนี้ บนแผ่นดินไครเมียจะใช้๓ภาษาได้แก่ภาษารัสเซีย ภาษายูเครนและภาษา Tarta
นาย ปูตินได้ชี้ชัดว่า ในประวัติศาสตร์ ในหัวใจและจิตใจองประชาชนรัสเซีย ไครเมียเป็นส่วนหนึ่งที่ไม่อาจแยกออกจากรัสเซียได้ การที่ไครเมียขึ้นตรงกับยูเครนถือเป็นความผิดพลาดของคนหนึ่ง การทำรัฐประหารในยูเครนเมื่อเร็วๆนี้และมติด้านนิติบัญญัติ รวมทั้ง การเลือกปฏิบัติได้ละเมิดผลประโยชน์ของประชาชนและผู้ที่ใช้ภาษารัสเซียและส่งผลกระทบต่อไครเมียโดยตรง ซึ่งเป็นเขตที่มีผู้ใช้ภาษารัสเซียอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก
ประธานาธิบดีรัสเซียได้ยืนยันถึงความชอบด้วยกฎหมายของการประกาศเอกราชของไครเมีย ซึ่งอาศัยกฎหมายระหว่างประเทศ โดยระบุว่า ไม่มีข้อกำหนดใดๆห้ามการประกาศเอกราช พร้อมทั้ง ทบทวนเกี่ยวกับกรณีการแยกตัวเป็นอิสระของโคโซโวจากสาธารณรัฐเซอร์เบีย การที่ยูเครนเคยประกาศเอกราชและแยกตัวออกจากสหภาพโซเวียดเมื่อ๒๐ปีก่อน ก็มีลักษณะเดียวกับกรณีของไครเมีย
ในวันเดียวกัน หลังจากที่ผู้นำของกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมหรือจี๘ ประกาศระงับสมาชิกภาพของรัสเซีย นาย วิลเลียมเฮก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษได้เผยว่า อังกฤษได้ระงับความร่วมมือด้านกลาโหมกับรัสเซีย รวมทั้ง ข้อตกลงร่วมมือด้านเทคนิคและการซ้อมรบร่วมระหว่างกองทัพเรือรัสเซีย อังกฤษ ฝรั่งเศสและสหรัฐ
ส่วนนาย บารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐได้เรียกร้องให้จัดการประชุมผู้นำกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลกหรือจี๗ ในสัปดาห์หน้าเพื่อหารือเกี่ยวกับมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย นาง อังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนีได้ยืนยันว่า การที่ไครเมียกลายเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียภายหลังการทำประชาพิจารณ์และการประกาศเอกราชของไครเมียเป็นการกระทำที่ละเมิดกฏายสากล ส่วนประธานาธิบดีฝรั่งเศส ฟรองซัว อองลองค์ได้เรียกยร้องให้สหภาพยุโรปหรืออียูมีท่าทีที่แข็งกร้าวต่อปัญหาดังกล่าว พร้อมทั้งยืนยันว่า ฝรั่งเศสไม่รับรองการตัดสินใจดังกล่าว
ส่วนนาย ปูตินได้ประกาศว่า แผนการคว่ำบาตรของฝ่ายตะวันตกต่อรัสเซียที่เกี่ยวข้องถึงการที่รัสเซียลงนามในสนธิสัญญารับไครเมียเป็นส่วนหนึ่งนั้นถือเป็นการกระทำที่ยั่วยุและรัสเซียจะทำการตอบโต้ พร้อมทั้ง ยืนยันว่า รัสเซียไม่เคยมีแผนการเผชิญหน้ากับฝ่ายตะวันตกเพียงแต่ต้องปกป้องผลประโยชน์ของตนเองเท่านั้น ./.