(VOVworld) – เมื่อบ่ายวันที่ 22 เมษายน ท่านเจืองเติ๊นซาง ประธานประเทศได้เข้าร่วมการประชุมครบองค์ครั้งที่ 2 และ 3 ของการประชุมสุดยอดเอเชีย – แอฟริกา พร้อมทั้งมีการพบปะกับนาย เฮนรี ราจาโอนาริมัมปิอานินา ประธานาธิบดีมาดากัสการ์ นาย ซีรีล รามาโฟซา รองประธานาธิบดีแอฟริกาใต้ นาง มาร์ก็อด อวลสตรอม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสวีเดนและนางศุษมา สวราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอินเดีย

ในการพบปะกับประธานาธิบดีมาดากัสการ์ ท่านเจืองเติ๊นซางได้แสดงความประสงค์ว่า ทั้งสองประเทศจะพัฒนาไมตรีจิตมิตรภาพที่ดีงามด้านการเมืองในความร่วมมือหลายด้าน โดยเฉพาะการค้า การเกษตรและโทรคมนาคม พร้อมทั้งเพิ่มการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนระดับสูง สนับสนุนและประสานงานอย่างใกล้ชิดในองค์การและฟอรั่มระหว่างประเทศ ตลอดจนพิจารณาการก่อตั้งคณะกรรมการรัฐบาลผสมตรวจสอบและลงนามเอกสารความร่วมมือต่างๆเพื่อเป็นพื้นฐานให้แก่การขยายความสัมพันธ์ในหลายด้าน ส่วนประธานาธิบดีมาดากัสการ์ได้ยืนยันถึงน้ำใจไมตรีของชาวมาดากัสการ์ที่สงวนให้แก่ประเทศและคนเวียดนาม ชื่นชมการพัฒนาอย่างรวดเร็วของเวียดนามโดยถือเป็นตัวอย่างให้แก่การพัฒนาของบรรดาประเทศแอฟริกา พร้อมทั้งเสนอแนวทางความร่วมมือที่มีความไปได้สูงระหว่างสองประเทศ เช่น ความร่วมมือด้านการเกษตร การขุดเจาะเหมืองแร่และโทรคมนาคม

ส่วนในการให้การต้อนรับรองประธานาธิบดีแอฟริกาใต้ ท่านเจืองเติ๊นซางได้ยืนยันว่า เวียดนามให้ความสำคัญต่อความสัมพันธ์มิตรภาพที่มีมาช้านานกับแอฟริกาใต้ และแอฟริกาใต้เป็นหุ้นส่วนสำคัญของเวียดนามในทวีปแอฟริกา ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องกันว่า จะจัดฟอรั่มหุ้นส่วนร่วมรัฐบาลครั้งที่ 3 ณ กรุงฮานอยในเดือนมิถุนายนนี้ให้ประสบความสำเร็จและหารือถึงมาตรการผลักดันความสัมพันธ์ในด้านต่างๆ เช่น การค้า การเกษตรและการต่อเรือ

ในการพบปะกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสวีเดน ท่านเจืองเติ๊นซางได้เรียกร้องให้ทั้งสองประเทศขยายการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนทุกระดับ อำนวยความสะดวกให้สถานประกอบการทั้งสองประเทศเจาะตลาดและประกอบธุรกิจกัน โดยเฉพาะในขณะที่ข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างสหภาพยุโรปและเวียดนามหรืออีวีเอฟทีเอจะได้รับการลงนามในเร็วๆนี้

โอกาสนี้ ท่านเจืองเติ๊นซางยังได้ให้การต้อนรับนางศุษมา สวราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอินเดียโดยยืนยันว่า เวียดนามให้ความสำคัญต่อการรักษาและพัฒนาความสัมพันธ์มิตรภาพที่มีมาช้านานและความร่วมมือหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างสองประเทศ ในด้านเศรษฐกิจ ทั้งสองฝ่ายควรพยายามเพื่อบรรลุเป้าหมายมูลค่าการค้าต่างตอบแทน 1 หมื่น 5 พันล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2020 และอำนวยความสะดวกให้สถานประกอบการทั้งสองประเทศขยายความร่วมมือในด้านที่ถือเป็นจุดแข็งของกัน พร้อมทั้งประสานงานกันอย่างใกล้ชิดและมีประสิทธิภาพในฟอรั่มระดับภูมิภาคและโลก ทั้งสองฝ่ายได้ยืนยันอีกครั้งถึงบทบาทสำคัญของการรักษาสันติภาพ เสถียรภาพ ความมั่นคง การเดินเรืออย่างเสรีและการแก้ไขการพิพาทในทะเลตะวันออกด้วยสันติวิธีตามกฎหมายสากล

นาง ศุษมา สวราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอินเดียได้กล่าวแสดงความยินดีว่า หลังจากที่รัฐบาลชุดใหม่ของอินเดียได้รับการก่อตั้ง ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศมีการพัฒนาอย่างดีงามมากขึ้นและเสนอให้จัดตั้งศูนย์วัฒนธรรมประจำนครหลวงของทั้งสองประเทศเพื่อผลักดันการแลกเปลี่ยนระดับประชาชน./.