|
ประธานประเทศ เจืองเติ๊นซาง เยือนประเทศอินโดนีเซีย |
(VOVworld) – ตามคำเชิญของนาย ซูซิโล บัมบัง ยุดโดโยโน ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ท่าน เจืองเติ๊นซาง ประธานประเทศและคณะผู้แทนระดับสูงเวียดนามได้เดินทางไปเยือนประเทศอินโดนีเซียในระหว่างวันที่ 27-28 มิถุนายน ในการต้อนรับท่าน เจืองเติ๊นซาง ประธานประเทศและคณะผู้แทนเวียดนามที่สนามบินมีรัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซีย มาร์ตี นาตาเลกาวา รัฐมนตรีทะเลและการประกอบอาชีพประมง Sharif CicipSoetardjo เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำอินโดนีเซีย เลซวนถุย พร้อมเจ้าหน้าที่นักการทูตเวียดนาม ตัวแทนชมรมชาวเวียดนามและนักศึกษาเวียดนามในอินโดนีเซีย สำหรับพิธีต้อนรับท่าน เจืองเติ๊นซาง ที่สนามบินได้มีขึ้นอย่างยิ่งใหญ่และสมเกียรติซึ่งแสดงให้เห็นถึงน้ำใจไมตรีและอัธยาศัยอันดีของชาวอินโดนีเซีย
พิธีต้อนรับประธานประเทศเวียดนาม เจืองเติ๊นซาง และการเจรจาระหว่างท่าน เจืองเติ๊นซางกับประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ซูซิโล บัมบัง ยุดโดโยโนจะมีขึ้นอย่างเป็นทางการในค่ำวันที่ 27 มิถุนายน
การเยือนอินโดนีเซียของท่าน เจืองเติ๊นซาง ครั้งนี้เป็นการยืนยันอีกครั้งถึงนโยบายที่เสมอต้นเสมอปลายของเวียดนามคือ ให้ความสำคัญต่อการผลักดันสัมพันธไมตรีและความร่วมมือในทุกด้านกับ อินโดนีเซียซึ่งเป็นหุ้นส่วนเก่าแก่และสำคัญของเวียดนามในอาเซียน ผลักดันโอกาสความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การป้องกันประเทศ ความมั่นคง การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาทั้งในระดับภูมิภาคและโลกที่ทั้งสอง ฝ่ายต่างให้ความสนใจ รวมทั้งปัญหาทะเลตะวันออก คาดว่า ในกรอบการเยือนครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายจะยกระดับความสัมพันธ์ขึ้นเป็นความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์
ในการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนของอินโดนีเซียก่อนการเยือน ท่าน เจืองเติ๊นซาง ได้ยืนยันว่า เวียดนามยังคงให้ความสำคัญต่อความร่วมมือกับอินโดนีเซียในฐานะหุ้นส่วนที่มีความสัมพันธ์กันมาช้านานและร่วมมือที่มีประสิทธิภาพอยู่เสมอ พร้อมทั้งถืออินโดนีเซียเป็นประเทศที่มีบทบาทและสถานะที่นับวันได้รับการยกระดับมากขึ้นในเอเชียแปซิฟิกและโลก ตามความเห็นของท่านประธานประเทศเวียดนาม ในเวลาที่จะถึง ทั้งสองฝ่ายต้องนำความสัมพันธ์ทวิภาคีพัฒนาเข้าสู่ส่วนลึกโดยก่อนอื่นคือ ประสานงานอย่างเข้มแข็งเพื่อร่างโครงการปฏิบัติการใหม่เพื่อผลักดันความสัมพันธ์ด้านการเมืองให้มากยิ่งขึ้น ขยายความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า การพัฒนาอย่างยั่งยืน พยายามบรรลุเป้าหมายการค้าต่างตอบแทน 5 พันล้านเหรียญสหรัฐก่อนปี 2015 และ 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐก่อนปี 2018 ผลักดันความร่วมมือด้านความมั่นคง การป้องกันประเทศ ขยายความร่วมมือในด้านที่มีศักยภาพ เช่น การศึกษาและฝึกอบรม ทะเลและการประกอบอาชีพประมง ปีโตรเลี่ยม วัฒนธรรม การกีฬา การท่องเที่ยวและการแลกเปลี่ยนในระดับประชาชน
สำหรับบทบาทของเวียดนามและอินโดนีเซียในการสร้างสรรค์อาเซียนที่เข้มแข็งและสามัคคีมากขึ้น ท่าน เจืองเติ๊นซาง ได้แสดงความเห็นว่า ในเวลาที่จะถึง ทั้งสองประเทศต้องประสานอย่างใกล้ชิดเพื่อผลักดันด้านสำคัญที่ได้บรรลุความเห็นพ้องของอาเซียน โดยเฉพาะการปฏิบัติขบวนการสร้างสรรค์ประชาคมอาเซียนให้ตรงตามแผนการที่ได้วางไว้ ส่งเสริมความสามัคคีอาเซียนเพื่อสามารถส่งเสริมบทบาทและเสียงพูดที่เป็นแกนหลักในปัญหาสำคัญที่เกี่ยวข้องถึงสันติภาพ ความมั่นคงในภูมิภาค ตลอดจนการรักษาบทบาทเป็นศูนย์กลางในภูมิภาค สำหรับบทบาทของอินโดนีเซียและอาเซียนต่อปัญหาในทะเลตะวันออก ท่านประธานประเทศเวียดนามได้เผยว่า ทะเลตะวันออกคือปัญหาที่ได้รับความสนใจร่วมที่เกี่ยวข้องถึงสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค ดังนั้น อาเซียนต้องมีบทบาทและเสียงพูดของตนและเพื่อทำให้ได้เช่นนี้ อาเซียนต้องส่งเสริมความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์บนพื้นฐานของหลักการที่ได้ระบุในแถลงการว่าด้วยการปฏิบัติต่อกันของทุกฝ่ายในทะเลตะวันออกหรือดีโอซี แถลงการณ์ 6 ข้อของอาเซียนเกี่ยวกับทะเลตะวันออก แถลงการณ์สุดยอดอาเซียน-จีนในโอกาสรำลึก 10 ปีการลงนามดีโอซี มุ่งสู่การร่างระเบียบว่าด้วยการปฏิบัติต่อกันในทะเลตะวันออกหรือซีโอซีโดยเร็ว เวียดนามหวังว่า อินโดนีเซียจะส่งเสริมบทบาทที่เข้มแข็งของตนต่อไปเพื่อสันติภาพ เสถียรภาพและการพัฒนาในทะเลตะวันออก./.