|
เรือของจีนฉีตน้ำแรงดันสูงใส่เรือเวียดนามในเขตน่านน้ำของเวียดนาม
|
(VOVworld) – เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม สหภาพยุโรปหรืออียูได้แสดงความกังวลและจะติดตามสถานการณ์ในทะเลตะวันออกอย่างใกล้ชิด ในการให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุเวียดนาม นาย Sebastien Brabant รองโฆษกของนางแคทเธอริน ออซตัน ผู้แทนระดับสูงของสหภาพยุโรปที่ดูแลด้านความมั่นคงและการต่างประเทศได้ยืนยันว่า สหภาพยุโรปมีความกังวลเป็นอย่างมากต่อเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับจีนและเวียดนามเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของแท่นขุดเจาะ ไหหยาง 981 ของจีน “พวกเราเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องแสวงหามาตรการแก้ไขอย่างสันติและมีความร่วมมือสอดคล้องกับกฎหมายสากลุโดยเฉพาะอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลและเรียกร้องให้ทุกฝ่ายค้ำประกันการเดินเรืออย่างเสรีและปลอดภัยต่อไป พวกเราเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องปฏิบัติมาตรการลดความตึงเครียดและควบคุมการปฏิบัติเพียงฝ่ายเดียวที่อาจจะเป็นภัยคุกคามต่อสันติภาพและเสถียรภาพของภูมิภาค สหภาพยุโรปจะติดตามสถานการณ์ในภูมิภาคนี้ต่อไปอย่างใกล้ชิด”
ส่วนที่ประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนเพื่อเตียมให้แก่การประชุมผู้นำอาเซียนครั้งที่ 24 และการประชุมที่เกี่ยวข้องต่างๆ ณ กรุงเนปีดอ ประเทศพม่าเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม ทุกประเทศอาเซียนต่างแสดงความกังวลเป็นอย่างมากต่อสถานการณ์ที่ซับซ้อนปัจจุบัน ซึ่งส่งผลกระทบต่อสันติภาพ ความมั่นคงและความปลอดภัยในการเดินเรือในภูมิภาค โดยเรียกร้องให้อาเซียนแสดงจุดยืนที่เป็นเอกฉันท์เพื่อเรียกร้องให้ทุกฝ่ายปฏิบัติตามกฎหมายสากลและอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982 หรือ UNCLOS ปฏิบัติแถลงการณ์เกี่ยวกับการปฏิบัติของทุกฝ่ายในทะเลตะวันออกหรือดีโอซีอย่างจริงจังและสมบูรณ์ ย้ำถึงความจำเป็นที่ต้องบรรลุร่างระเบียบการปฏิบัติต่อกันในทะเลตะวันออกหรือซีโอซีโดยเร็วเพื่อปกป้องสันติภาพ เสถียรภาพ ความมั่นคงและการเดินเรืออย่างปลอดภัย
ในการตอบคำถามของผู้สื่อข่าวเวียดนาม นาย Farhan Haq โฆษกของนายบันคีมูน เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติได้ยืนยันว่า เลขาธิการใหญ่บันคีมูนแสดงความกังวลต่อสถานการณ์ที่ตึงเครียดมากขึ้นในทะเลตะวันออกระหว่างจีนกับเวียดนามในหลายวันที่ผ่านมา โดยเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมีความอดกลั้นและแก้ไขการพิพาทด้วยสันติวิธี ผ่านการสนทนาและสอดคล้องกับกฎหมายสากล รวมทั้งกฎบัตรสหประชาชาติ
ในวันเดียวกัน กระทรวงการต่างประเทศอินเดียได้ออกแถลงการณ์ที่แสดงความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในทะเลตะวันออกโดยระบุอย่างชัดเจนว่า “อินเดียกำลังติดตามสถานการณ์ในทะเลตะวันออกด้วยความกังวลโดยถือว่า การรักษาสันติภาพ เสถียรภาพ การพัฒนาและความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาคเป็นสิ่งที่เป็นความเป็นความตายต่อประชาคมระหว่างประเทศ อินเดียมีความปรารถนาว่า ทุกฝ่ายจะแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธีตามหลักการณ์ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางของกฎหมายสากล” นาย Geetesh Sharma ประธานคณะกรรมการสามัคคีอินเดีย – เวียดนามรัฐเบงกอลตะวันตกก็เรียกร้องให้จีนใช้ความอดกลั้นและจัดการเจรจาตามกฎหมายสากล
กลุ่มส.ว.ของพรรคริพับลิกันและพรรคเดโมแครตสังกัดคณะกรรมการวิเทศสัมพันธ์วุฒิสภาสหรัฐได้ออกแถลงการณ์ร่วมคัดค้านจีนที่ได้มีการกระทำที่ก่อให้เกิดความตึงเครียดในทะเลตะวันออกอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งแสดงความหวังว่า ส.วทุกนายจะเห็นพ้องกันอนุมัติมตินี้เพื่อส่งสาส์นที่ชัดเจนเกี่ยวกับการกระทำที่มีลักษณะยั่วยุของจีน
ในขณะเดียวกัน บรรดานักวิชาการระหว่างประเทศได้แสดงความคิดเห็นว่า การกระทำของจีนละเมิดกฎหมายสากลและมีเป้าหมายทางการเมือง นาย Taylor Fravel ศ.รัฐศาสตร์ของสถาบันเทคโนโลยี Masachusetts สหรัฐ ผู้เชี่ยวชาญที่วิจัยเกี่ยวกับปัญหาดินแดนของจีนเผยว่า ในด้านเศรษฐกิจ ยังไม่มีหลักฐานที่พิสูจน์ให้เห็นว่า เขตที่จีนตั้งแทนขุดเจาะนั้นมีปริมาณไฮโดรคาร์บอนมาก ดังนั้น การตั้งแทนขุดเจาะ ไหหยาง 981 ที่ใช้เงินทุนก่อสร้างประมาณ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐและต้องเสียค่าดำเนินกิจการสูง จึงไม่ใช่โครงการที่มีประสิทธิภาพ ดังนั้นอาจกล่าวได้ว่า จีนใช้แท่นขุดเจาะดังกล่าวเพื่อเป็นการยืนยันและปฏิบัติขอบเขตอำนาจตามกฎหมายที่จีนประกาศอธิปไตยในทะเลตะวันออก ศ. Fravel ยังยืนยันว่า จุดที่จีนตั้งแท่นขุดเจาะ ไหหยาง 981 อยู่ในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของเวียดนาม แท่นขุดเจาะดังกล่าวอยู่ห่างจากเกาะลี้เซินของเวียดนาม 120 ไมล์ทะเลดังนั้นจึงอยู่ในไหล่ทวีปของเวียดนามและอยู่ในเขตเศรษฐกิจจำเพาะ 200 ไมล์ทะเลของเวียดนามอย่างแน่นอน
ส่วนศ. Kumao Kaneko ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยยุทธศาสตร์พลังงานของญี่ปุ่นได้แสดงความคิดเห็นเช่นกันโดยเผยว่า การที่จีนเรียกร้องสิทธิผลประโยชน์ในทะเลตะวันออกเกือบทั้งหมดและทั้งทะเลฮัวตุ้งยากที่จะยอมรับได้ เมื่อมองในแผนที่จะเห็นว่า เขตที่จีนตั้งแท่นขุดเจาะนั้นอยู่ใกล้เวียดนามมากกว่าจีนและเวียดนามมีสิทธิเหนือเขตทะเลดังกล่าวแน่นอน ตามสื่อมวลชนระหว่างประเทศ เวียดนามอาจจะเร่งเตรียมระเบียบการทางนิตินัยเพื่อประท้วงแถลงการณ์ที่ไร้เหตุผลของจีนเพื่อบังคับให้จีนถอนแท่นขุดเจาะดังกล่าวออกไปจากไหล่ทวีปของเวียดนาม./.