|
นาย บันคีมุน เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ |
(VOVWorld)-ภายหลังความผันผวนทางการเมืองที่ซับซ้อนในไทย เมื่อบ่ายวันที่๒๒พฤษภาคม นาย ราวีนา ซามดาซานี โฆษกของสำนักงานสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติได้แสดงความวิตกกังวลต่อการทำรัฐประหารในไทย โดยเห็นว่า การประกาศใช้กฎอัยการศึกอาจจะละเมิดสิทธิของประชาชน ในวันเดียวกัน นาย ฟรองซัวส์ โอลลองด์ ประธานาธิบดีฝรั่งเศสได้เรียกร้องให้ไทยต้องกลับมาใช้ระบอบการปกครองด้วยกฎหมายทันที พร้อมทั้ง ย้ำถึงความจำเป็นที่จะต้องให้ความเคารพสิทธิขั้นพื้นฐานและเสรีภาพของประชาชน
ก่อนหน้านั้น กองทัพไทยได้ประกาศเข้าควบคุมอำนาจบริหารประเทศและจัดตั้งคณะกรรมการรักษาความสงบแห่งชาติหรือ คสช. หลังจากที่การเจรจาระหว่างฝ่ายการเมืองต่างๆในไทยที่มีขึ้นในระหว่างวันที่๒๑ถึงวันที่๒๒พฤษภาคมไม่สามารถบรรลุข้อตกลงใดๆได้ โดยกองทัพได้ระงับการใช้รัฐธรรมนูญปี๒๐๐๗ ส่วนวุฒิสภายังคงปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ
ส่วนนาย บันคีมุน เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติก็ได้แสดงความวิตกกังวลเช่นกัน พร้อมทั้ง เรียกร้องให้ไทยกลับสู่การเป็นประชาธิปไตยอีกครั้งและสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ อีกทั้ง ย้ำว่า การสนทนาในทุกด้านจะเปิดทางให้แก่การรักษาสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองที่ยาวนานในไทย ในวันเดียวกัน นาย จอห์น แคร์รี่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐได้ประกาศว่า กองทัพไทยไม่มีเหตุผลใดๆเพื่อทำการรัฐประหาร พร้อมทั้ง เตือนว่า ปฏิบัติการดังกล่าวอาจจะส่งผลเสียต่อความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะ กับกองทัพไทย
ส่วนสหภาพยุโรปหรืออียูได้เร่งรัดให้ไทยกลับสู่การเป็นประชาธิปไตยโดยเร็ว นาย วิลเลียมเฮก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษได้เรียกร้องให้ไทยรื้อฟื้นทางการที่มาจากการเลือกตั้งผ่านการกำหนดวันเลือกตั้งโดยเร็ว ส่วนหนังสือพิมพ์ ไฟแนนเชียลไทม์ของอังกฤษได้เตือนว่า การทำรัฐประหารในไทยจะทำให้เศรษฐกิจรายใหญ่อันดับ๒ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตกเข้าสู่ภาวะวิกฤตอีกครั้ง และเพิ่มความเสี่ยงที่ไทยต้องเผชิญกับมาตรการคว่ำบาตรจากประเทศต่างๆ./.