ตามการสรุปของสำนักงานด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ ในจำนวนผู้เสียชีวิตมีเด็ก 11 คนและสตรี 6 คน ซึ่งประชามติระหว่างประเทศได้ประนามปฏิบัติการนี้อย่างรุนแรง โดยจรวดของอิสราเอลได้ถล่มโรงเรียน Al-Taba een ตรงกับช่วงเวลาที่ผู้อพยพกำลังสวดมนต์ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก อิสราเอลกล่าวหาว่าศูนย์บัญชาการของกลุ่มฮามาสตั้งอยู่ในโรงเรียนนี้และติดกับมัสยิดใน Daraj Tuffahจึงเป็นเป้าหมายการโจมตีของกองทัพอิสราเอล
ต่อเหตุการณ์นี้ กระทรวงการต่างประเทศอียิปต์เรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศมีการแสดงท่าทีที่เป็นเอกภาพและมีประสิทธิภาพเพื่อปกป้องชาวปาเลสไตน์ และยุติการมุ่งเป้าไปที่พลเรือนที่ไม่มีที่พึ่ง จำเป็นที่จะต้องส่งเสริมความพยายามทางการทูตต่อไปเพื่อค่ำประกันการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ฉนวนกาซาและบรรลุข้อตกลงหยุดยิงโดยเร็ว
กระทรวงการต่างประเทศของอิหร่านประณามการโจมตีดังกล่วและเรียกร้องให้มี "การดำเนินการอย่างเด็ดขาดจากประเทศมุสลิมและประเทศที่รักเสรีภาพทั่วโลกเพื่อสนับสนุนชาวปาเลสไตน์และการต่อสู้เพื่อต่อต้านการยึดครองของพวกเขา"
ส่วนสหรัฐซึ่งเป็นพันธมิตรใกล้ชิดของอิสราเอลในตะวันออกกลางก็แสดง “ความกังวลอย่างยิ่ง” เกี่ยวกับการบาดเจ็บล้มตายของพลเรือนจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลใส่โรงเรียนในกาซา โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติทำเนียบขาว ย้ำจุดยืนของสหรัฐในการเรียกร้องให้อิสราเอลต้องใช้มาตรการลดความเสียหายต่อพลเรือน
ในขณะเดียวกันประเทศอื่นๆอีกเช่น จอร์แดน บาห์เรน คูเวต ตุรกี อังกฤษ ฝรั่งเศส เป็นต้น ได้ประณามการโจมตีดังกล่าวและเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศมีมาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีก
ตามการประมาณการของสหประชาชาติ นับตั้งแต่วันที่ 4 กรกฎาคม มีการโจมตีโรงเรียนที่ใช้เป็นที่พักพิงสำหรับผู้อพยพในฉนวนกาซาอย่างน้อย 21 ครั้ง คร่าชีวิตผู้คนไป 274 ราย โดยกองทัพอิสราเอลได้กล่าวว่าโรงเรียนเหล่านี้ถูกใช้เป็นฐานที่มั่นของกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์.