เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ในการกล่าวปราศรัยกับสื่อมวลชนในการลงพื้นที่จังหวัดคาฮ์รามันมารัช ใกล้ศูนย์กลางแผ่นดินไหว ประธานาธิบดีตุรกี เรเซป ตอยยิบ เออร์โดกันได้เผยว่า ภารกิจการกู้ภัยกำลังได้รับการปฏิบัติ คาดว่า มีประชาชนประมาณ 13.5 ล้านคนได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.8 ริกเตอร์ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวันที่ 6 กุมภาพันธ์ อาคารกว่า 6,400 หลังพังถล่ม ซึ่งรัฐบาลตุรกีมีแผนการก่อสร้างที่อยู่อาศัยให้แก่ผู้ที่สูญเสียบ้านเรือนใน 10 จังหวัดภายใน 1 ปี
ในวันเดียวกัน นาง Janez Lenarcic กรรมาธิการยุโรปเพื่อการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการจัดการภาวะวิกฤตได้ประกาศว่า สหภาพยุโรปได้รับคำร้องขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลซีเรีย ซึ่ง 19 ประเทศสมาชิกอียู แอลเบเนียและมอนเตเนโกรได้ส่งหน่วยกู้ภัยเพื่อประสานงานกับศูนย์การประสานงานรับมือฉุกเฉินของอียูและสำนักงานที่เกี่ยวข้องของตุรกี
ในวันเดียวกัน กระทรวงสาธารณสุขอิสราเอลได้ประกาศว่าจะประสานงานกับกองทัพจัดตั้งโรงพยาบาลสนามในตุรกีเพื่อช่วยเหลือผู้เคราะห์ร้าย ส่วนจีนได้ประกาศว่า จะให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมฉุกเฉิน มูลค่า 4.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐแก่ซีเรีย จีนได้ส่งหน่วยกู้ภัยรวมสมาชิก 82 คน อุปกรณ์การแพทย์และสิ่งของช่วยเหลือจำนวน 20 ตันไปยังประเทศตุรกีเมื่อเช้าวันที่ 8 กุมภาพันธ์ รัฐบาลมาเลเซียได้ประกาศว่า จะให้ความช่วยเหลือด้านการเงิน มูลค่ากว่า 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐแก่ตุรกีและซีเรีย ออสเตรเลียจะส่งหน่วยกู้ภัยรวมสมาชิก 72 คนไปยังตุรกีในปลายสัปดาห์นี้และให้ความช่วยเหลือด้านการเงินมูลค่า 7 ล้านดอลลาร์สหรัฐแก่ตุรกีและซีเรีย
วันที่ 9 กุมภาพันธ์ บรรดารัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนได้ออกประกาศที่แสดงความสามัคคีกับประชาชนซีเรียและตุรกีในช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยอุปสรรคนี้ แสดงความเสียใจต่อความสูญเสียทั้งด้านชีวิตและทรัพสินจากเหตุแผ่นดินไหว บรรดาประเทศอาเซียนกำลังเดินหน้าช่วยเหลือตุรกีและซีเรียในการแก้ไขผลเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวดังกล่าว.