รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสิงคโปร์ Vivian Balakrishnan ได้ให้ข้อสังเกตว่า การรัฐประหารในเมียนมาร์ได้ส่งผลกระทบในทางลบต่อเศรษฐกิจ – สังคมของเมียนมาร์ ดังนั้น อาเซียนจำเป็นต้องผลักดันนการสนทนาที่มีการเข้าร่วมของนาง อองซานซูจี กับกองทัพเมียนมาร์เพื่อแสวงหามาตรการแก้ไข
การชุมนุมประท้วงการรัฐประหารในประเทศเมียนมาร์ได้มีขึ้นอย่างต่อเนื่องในเวลาที่ผ่านมาส่งผลให้เกิดการปะทะทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 18 คนและมีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บกว่า 30 คน ส่วนเมื่อวันที่ 1 ที่ผ่านมา อินเดียได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับการชุมนุมประท้วงในนครบางแห่งของเมียนมาร์และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องแก้ไขการปะทะผ่านการสนทนา
ในวันเดียวกัน เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติLinda Thomas-Greenfield ได้แสดงความหวังว่า จะใช้บทบาทการเป็นประธานหมุนเวียนของสหรัฐในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในเดือนมีนาคมนี้เพื่อผลักดันการสนทนาเกี่ยวกับเมียนมาร์ พร้อมทั้งยืนยันว่า จะมีการปฏิบัติโดยเร็ว ในขณะเดียวกัน รัฐบาลเยอรมนีก็เรียกร้องให้ทางการทหารเมียนมาร์มีความอดกลั้นและปล่อยตัวนักการเมืองที่กำลังถูกจับกุมตัว ส่วนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษ Dominic Raab แสดงความคิดเห็นว่า ประชาชนเมียนมาร์ได้แสดงความปราราถนาที่จะได้แสดงความคิดเห็นผ่านการชุมนุมอย่างสันติ.