แผนการพัฒนาฯ ฉบับนี้ ได้ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาพลังงานหมุนเวียน ซึ่งมีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ 31-39 หรือเท่ากับกำลังการผลิตไฟฟ้า 5,000-10,000 เมกะวัตต์ ภายในปี 2030 และอาจสูงถึงร้อยละ 47 ควบคู่กับเงื่อนไขต่างๆ ที่ได้ให้คำมั่นไว้เกี่ยวกับการจัดตั้งความสัมพันธ์หุ้นส่วนในการปรับเปลี่ยนพลังงานอย่างเท่าเทียม โดยสัดส่วนของพลังงานหมุนเวียนในระบบคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 67.5-71.5 ภายในปี 2050 นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์เวียดนาม เหงวียห่งเยียน ได้เผยว่า นี่ถือเป็นแผนการพัฒนาที่มีความสำคัญเป็นพิเศษ โดยเปิดพื้นที่และโอกาสในการพัฒนาใหม่สำหรับอุตสาหกรรมพลังงานของเวียดนามตามแนวทางที่ยั่งยืนและเท่าเทียมกัน ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มของเศรษฐกิจสีเขียว เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ
“การอนุมัติ PDP8 มีความสำคัญเป็นอย่างมากและเป็นจุดเริ่มต้น ในการนี้ ผมเรียกร้องให้หน่วยงานต่างๆ ภายในกระทรวงและหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้มอบหมายไว้ในการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับเนื้อหาหลักของแผนการพัฒนาฯ ฉบับนี้ ให้แก่หน่วยงานทุกระดับ รวมถึงกลุ่มผู้ประกอบการและประชาชนทั่วประเทศ เพื่อสร้างความตระหนักและการปฏิบัติ รวมถึงความมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายต่างๆ ที่กำหนดไว้”
 ภาพการประชุมจากกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์ |
ทั้งนี้ จนถึงปี 2030 เวียดนามจะมีศูนย์กลางด้านอุตสาหกรรมและการให้บริการด้านพลังงานทดแทนระหว่างภูมิภาค 2 แห่ง ซึ่งประกอบด้วยภาคการผลิต ระบบการส่งและการใช้กำลังไฟฟ้า ภาคอุตสาหกรรมการผลิตอุปกรณ์พลังงานทดแทน พร้อมการติดตั้ง การให้บริการ และการสร้างระบบนิเวศอุตสาหกรรมพลังงานทดแทนในพื้นที่ที่มีศักยภาพทั้งในภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคกลาง โดยเวียดนามได้ตั้งเป้าหมายว่า จะมีจำนวนอาคารสำนักงานและครัวเรือนร้อยละ 50 ใช้พลังงานแสงอาทิตย์จากแผงโซล่าเซลล์ที่ติดตั้งบนหลังคาภายในปี 2030.