อิหร่านได้ยิงขีปนาวุธนับสิบลูกใส่ฐานทัพของสหรัฐในประเทศอิรัก (Photo: AP) |
ส่วนองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือหรือนาโต้และสหภาพยุโรปได้ออกประกาศเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายลดความตึงเครียด ในวันเดียวกัน เลขาธิการนาโต้ได้เผยว่า กำลังเฝ้าติดตามสถานการณ์ในภูมิภาคตะวันออกกลางอย่างใกล้ชิดและอยากป้องกันไม่ให้อิหร่านทำการตอบโต้ ส่วนนาง Ursula von der Leyen ประธานคณะกรรมการยุโรปได้เผยว่า ความตึงเครียดจะส่งผลดีต่ออิหร่าน
ในขณะที่ในวันที่ 10 มกราคมนี้ บรรดารัฐมนตรีต่างประเทศของอียูจะทำการประชุมวิสามัญ ซึ่งวิกฤตดังกล่าวและอนาคตของข้อตกลงนิวเคลียร์ JCPOA จะเป็นเนื้อหาหลักในการประชุม ในการนี้ บรรดารัฐมนตรีต่างประเทศอียูมีความประสงค์ที่จะหาทางลดความตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับอิหร่าน
วันที่ 8 มกราคม ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกได้เพิ่มสูงขึ้น โดยราคาน้ำมัน WTI ของสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.53 อยู่ที่ 65.54 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
นาย สก็อตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียได้เผยว่า จะเกาะติดสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยกำชับให้รัฐมนตรีกลาโหมปฏิบัติทุกมาตรการเพื่อปกป้องความปลอดภัยของทหาร นักการทูตและพลเมืองออสเตรเลียในอิรัก
ส่วนรัฐมนตรีต่างประเทศนิวซีแลนด์ วินสตัน ปีเตอร์สได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับอิหร่านที่เพิ่มขึ้นและย้ำว่า ถึงเวลาแล้วที่ทุกฝ่ายต้องใช้ความอดกลั้นเพื่อเปิดโอกาสการแก้ปัญหาผ่านมาตรการการทูต
รัฐบาลฟิลิปปินส์ได้สั่งอพยพพลเมืองของตนในอิรัก โดยกระทรวงการต่างประเทศฟิลิปปินส์ได้ยกระดับคำเตือนด้านความมั่นคงเป็นระดับที่ 4
ส่วนในการประชุมของสภาความมั่นคงแห่งชาติหรือเอ็นเอสซีที่หารือเกี่ยวกับสถานการณ์ในตะวันออกกลาง นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น อาเบะ ชินโซได้เผยว่า จะประสานงานกับประเทศที่เกี่ยวข้องและมีปฏิบัติการทางการทูตเพื่อลดความตึงเครียดระหว่างสองฝ่าย
ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็ม มานูเอล มาครง ได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีอิหร่าน ฮัสซัน โรฮานี เกี่ยวกับสถานการณ์ฉุกเฉินในภูมิภาค ส่วนนายกรัฐมนตรีเยอรมนี อังเกลา แมร์เคิล ก็ธำรงการติดต่อกับประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ ส่วนนาย อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติได้เรียกร้องอย่างต่อเนื่องให้ทุกฝ่ายใช้ความอดกลั้น.