ภาพการประชุม (VGP) |
รายงานในที่ประชุมระบุว่า อัตราการขยายตัวจีดีพีใน 6 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ ร้อยละ 6.76 ซึ่งต่ำกว่าของช่วงเดียวกันของปี 2018 แต่สูงกว่าช่วง 6 เดือนแรกของช่วงปี 2011- 2017 ในขณะที่เศรษฐกิจร้อยละ 70ในทั่วโลก ซึ่งส่วนใหญ่คือเศรษฐกิจที่พัฒนาอยู่ในภาวะชะลอตัว ในการนี้ นายกรัฐมนตรีเหงวียนซวนฟุกได้ประเมินว่า“จากการปฏิบัติอย่างเคร่งครัดในเชิงรุกของทางการปกครองทุกระดับ พวกเราได้ประสบผลสำเร็จที่น่ายินดี โดยเศรษฐกิจมหภาคมีเสถียรภาพ อัตราการขยายตัวจีดีพี การจัดเก็บรายได้เข้างบประมาณแผ่นดิน การลงทุนด้านการค้าและการส่งออกอยู่ในระดับค่อนข้างสูง ซึ่งผมชื่นชมความพยายามของหน่วยงานและท้องถิ่นต่างๆ”
นายกรัฐมนตรีเหงวียนซวนฟุกได้กำชับให้ต้องเน้นแก้ไขความท้าทายต่างๆ เช่น ปัญหาโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร ปัญหาภัยแล้ง การเบิกจ่ายเงินทุนสาธารณะ การปรับลดเงื่อนไขการประกอบธุรกิจเพื่อใช้ประโยชน์จากข้อตกลงการค้าที่ได้รับการลงนาม สำหรับปัญหาดังกล่าว นาย เหงวียนชี้หยุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวางแผนและการลงทุนได้เผยว่า“ต้องบรรลุอัตราการขยายตัวจีดีพีในไตรมาสที่ 3 ที่ร้อยละ 6.91 พร้อมทั้งต้องเน้นส่งเสริมศักยภาพในด้านต่างๆเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติโครงการลงทุนสำคัญๆในท้องถิ่นต่างๆ เช่น ส่งเสริมการพัฒนาหน่วยงานสัตว์น้ำควบคู่กับการพัฒนาตลาดส่งออก การปฏิบัติโครงการโรงกลั่นน้ำมันงีเซิน Formosa ห่าติ๊ง นิคมอุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้าหว่าฟาตยุงก๊วดและโรงงานผลิตรถยนต์ VinFast ธำรงการขยายตลาดส่งออกที่สำคัญๆ เช่น สหรัฐ ญี่ปุ่น อียู จีน อาเซียนและแก้ไขปัญหาต่างๆที่อาจทำให้เกิดความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างเวียดนามกับตลาดใหญ่ๆ”
สำหรับกิจกรรมการต่างประเทศใน 6 เดือนแรกของปี 2019 นายกรัฐมนตรีเหงวียนซวนฟุกได้กล่าวถึงการลงนามข้อตกลงการค้าเสรีและข้อตกลงการคุ้มครองการลงทุนระหว่างเวียดนามกับอียู การที่เวียดนามได้รับเลือกเป็นสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติด้วยคะแนนในระดับสูง การเตรียมพร้อมให้แก่การพบปะระหว่างผู้นำสหรัฐกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีและความสำเร็จของการจัดงานวิสาขบูชาโลก
สำหรับการบริหารชี้นำของรัฐบาลใน 6 เดือนแรกของปีนี้ นายกรัฐมนตรีเหงวียนซวนฟุกได้ย้ำว่า รัฐบาลได้ชี้นำการจัดทำแผนกระตุ้นการขยายตัวประจำเดือนและประจำไตรมาส แก้ไขอุปสรรคเพื่อผลักดันการผลิต ประกอบธุรกิจ จัดการประชุมระดับประเทศและระหว่างประเทศเกี่ยวกับการส่งเสริมการผลิต การส่งออก การแปรรูปสินค้าเกษตร การพัฒนาเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง เขตเศรษฐกิจหลัก การทอ่งเที่ยวและเศรษฐกิจภาคเอกชนอย่างยั่งยืนและการปรับปรุงบรรยากาศการลงทุนประกอบธุรกิจ
ในช่วงบ่าย ที่ประชุมได้เสนอมาตรการต่างๆใน 6 เดือนที่เหลือของปี 2019.